ทุกวันนี้การมีหน้าร้านสำหรับขายของออนไลน์ กลายเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการทำธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่ง Shopify ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์ โดยมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง นอกเหนือจากเปิดร้านค้าขายของออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มสุดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee
สารบัญ Shopify คืออะไร?
Shopify ดีอย่างไร?
หลักการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปด้วย Shopify
ทำไมต้องเลือก Shopify?
สร้างร้านค้าให้เป็นจริงด้วย Shopify
เชื่อมต่อกับลูกค้าไม่มีสะดุดด้วย Shopify
ธุรกิจเติบโตด้วย Shopify ได้อย่างไร?
Shopify คืออะไร ทำไมต้องสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปด้วย Shopify - Shopify
Shopify คืออะไร? Shopify คือ แพลตฟอร์มสำหรับอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรที่ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปได้ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อขายสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งจากความสำเร็จที่ร้านค้าหลายล้านรายเลือกใช้บริการแพลตฟอร์มดังกล่าว จึงทำให้ Shopify สามารถประมินทิศทางของธุรกิจ และสร้างฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Shopify ดีอย่างไร? Shopify ช่วยให้การเปิดร้านค้าออนไลน์ในรูปแบบเว็บไซต์เป็นเรื่องง่าย เพราะรวมทุกสิ่งที่เกี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซไว้ในแพลตฟอร์มเดียว โดยสามารถสร้างและปรับแต่งร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ อีกทั้งยังสามารถขายสินค้าและบริการได้หลากหลายช่องทางด้วย อาทิ เว็บไซต์, มือถือ, ร้านค้าปลีกที่มีหน้าร้าน, ร้านค้าชั่วคราวตามสถานที่ต่าง ๆ แบบ Pop-up Store, ขายแบบเจอตัวลูกค้า รวมไปถึงช่องทางโซเชียลมีเดีย และ Market Place
โดย Shopify เป็นระบบสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ใช้งานได้ทั้งบนคลาวด์ (Cloud) และ Web Hosting (เซิร์ฟเวอร์ที่บริการรับฝากเว็บไซต์) ซึ่ง Shopify มีการอัปเกรดซอฟต์แวร์และเซิร์ฟเวอร์อยู่เสมอ จึงมั่นใจได้ว่าสามารถเข้าถึงระบบได้จากทุกที่ด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
และหากเมื่อใดที่จำเป็นต้องเพิ่มเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อจัดการสินค้า ระบบการชำระเงิน และการจัดส่งสินค้า ก็ไม่ต้องกังวลว่าเรื่องค่าใช้จ่ายหรือกลัวว่าจะเสียเวลาในการเชื่อมต่อระบบและข้อมูลใหม่ ๆ ไว้ด้วยกัน เพราะ Shopify รวมเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าด้วยกัน จึงสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ได้อย่างง่ายดาย
หลักการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปด้วย Shopify ในการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปด้วย Shopify สามารถเลือกสร้างร้านค้าที่เหมาะกับธุรกิจของคุณได้ง่าย ๆ ดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์หลักของ Shopify เมื่อซื้อแผนการใช้งานของ Shopify ไม่ว่าแผนใด ก็จะมี Core Product หรือผลิตภัณฑ์หลักที่ครบครันสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจและขายสินค้าออนไลน์บนเว็บไซต์ อาทิ เทมเพลตสำหรับร้านค้า, เครื่องมือในการขายสินค้าช่องทางต่าง ๆ , เครื่องมือประมวลผลในการชำระเงิน, ช่องทางชำระเงินออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุด, เครื่องมือการตลาดและ SEO ซึ่งทั้งหมดนี้คือเครื่องมือเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ของ Shopify และหากต้องการปรับแต่งร้านค้า ก็สามารถรับสิทธิ์เพื่อเข้าถึง API และเครื่องมือพัฒนาต่าง ๆ เพื่อปรับแต่งร้านค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2. ผลิตภัณฑ์และบริการเสริมของ Shopify เมื่อธุรกิจเริ่มเติบโตทำให้ต้องอัปเกรดร้านค้าให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ทาง Shopify จึงมีผลิตภัณฑ์และบริการเสริมให้กับร้านค้า ตั้งแต่การเข้าถึงเงินทุนที่ง่ายขึ้น ไปจนถึงการเพิ่มตัวเลือกในการชำระเงินแบบเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าของธุรกิจดำเนินกิจการได้อย่างคล่องตัวและเพิ่มโอกาสต่อยอดธุรกิจในตลาดได้ดีขึ้น
3. แอปพลิเคชันของพาร์ตเนอร์ที่เชื่อถือได้ หากต้องการปรับแต่งร้านค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น App Store ของ Shopify มีแอปพลิเคชันและฟีเจอร์ของเหล่าพาร์ตเนอร์ที่เชื่อถือได้ให้เลือกดาวน์โหลดนับพันรายการ อาทิ เครื่องมือโฆษณาใหม่ล่าสุดในโซเชียลมีเดีย หรือแอปฯ ส่งข้อความ โดยสามารถใช้งานได้ง่าย ๆ เพราะไม่ต้องใช้โค้ดใด ๆ หรือมีความรู้เรื่องซอฟต์แวร์ แต่ถ้ามีความรู้เรื่องโค้ดและต้องการเขียนโค้ดด้วยตนเองก็สามารถทำได้ รวมถึงสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญให้เขียนโค้ดเพื่อเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานบนเว็บไซต์ได้เช่นกัน
ทำไมต้องเลือก Shopify? Shopify สนับสนุน Community ที่เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ทั้ง Community ที่เป็นออนไลน์ และออฟไลน์ จึงเป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบการ, พ่อค้าแม่ค้า, นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และพาร์ตเนอร์ที่หลากหลายและใหญ่ที่สุด Shopify ใช้ได้ทั่วโลก โดยมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับอีคอมเมิร์ซ และเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้ทุกที่ จึงทำให้มีผู้ประกอบการใช้ Shopify มากกว่า 175 ประเทศ Shopify เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ครบวงจรที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นศูนย์รวมธุรกิจการค้าทั้งหมดแล้ว ยังให้การเข้าถึงระบบ Commerce Ecosystem อย่างครบวงจรด้วย Shopify ใช้งานง่าย โดยออกแบบให้ดูเรียบง่าย และเข้าถึงได้ง่ายที่สุด เพื่อให้กับผู้ประกอบการเข้าถึงการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ ได้มากที่สุดShopify สามารถปรับตามขนาดของธุรกิจได้ ไม่ว่าธุรกิจจะเติบโต และมีความซับซ้อนมากขึ้นเพียงใด ก็ยังสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและฟีเจอร์ๆ ต่าง ๆ เพื่อขยายธุรกิจได้อย่างราบรื่น
สร้างร้านค้าให้เป็นจริงด้วย Shopify Shopify ช่วยเปลี่ยนความฝันในการเปิดร้านค้าของคุณให้กลายเป็นจริง ไม่ว่าจะขายสินค้าหรือบริการก็สามารถสร้างร้านค้าได้ทุกที่ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
หน้าร้าน – ปรับแต่งหน้าร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ตามต้องการ เพื่อสร้างประสบการณ์ในการซื้อสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างไม่มีสะดุดและไม่ซ้ำใคร รวมช่องทางโซเชียลมีเดีย / ช่องทางขาย – Shopify ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถโปรโมตและขายสินค้าในช่องทางต่างๆ ได้จากที่เดียวกัน จึงขยายฐานลูกค้าได้ทั้งช่องทางโซเชียลมีเดีย และ Marketplaces ยอดนิยม แอปพลิเคชันร้าน – มีแอปพลิเคชันร้านค้าที่ลูกค้าสามารถชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถติดตามรายละเอียดคำสั่งซื้อ และการจัดส่งสินค้าได้อย่างง่ายดายด้วย จึงอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการช้อปปิ้งออนไลน์ระบบ POS / ร้านค้าขายปลีก ด้วยระบบ POS ( Point of Sale) ที่ครบวงจรของ Shopify ซึ่งเป็นระบบขายสินค้าหน้าร้าน ทำให้สามารถใช้ฟีเจอร์พื้นฐานในการขายสินค้า รับชำระเงินจากลูกค้า, บริหารจัดการสต๊าฟได้อย่างราบรื่น รวมไปถึงการเช็กสต๊อกสินค้าก็ทำได้ไม่มีสะดุด เครื่องมือสร้างเว็บ – Shopify มีเครื่องมือสร้างสรรค์เว็บไซต์ที่ครบครัน ซึ่งไม่ได้มีแค่เครื่องมือที่เกี่ยวกับการผลิตคอนเทนต์เท่านั้น แต่ยังมีเครื่องมือที่สร้างธุรกิจให้เติบโตด้วยการจัดเก็บข้อมูล ไฟล์ต่าง ๆ – ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล คอนเทนต์ และไฟล์ต่าง ๆ โดยสามารถใช้ Metafield ในการบันทึกข้อมูลเ และมีการรองรับไฟล์ต่าง ๆ เครื่องมือสร้างแบรนด์ โลโก้ให้เติบโต – สร้างแบรนด์ให้เติบโตได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือที่ใช้งานง่าย อาทิ เครื่องมือสร้างโลโก้, สร้างสโลแกน และสร้าง QR Code Domain / Web Hosting – สามารถเลือก Domain และ Web Hosting ได้อย่างปลอดภัยด้วย Shopify และยังสามารถควบคุม ปรับแต่ง กำหนดค่าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วย
เชื่อมต่อกับลูกค้าไม่มีสะดุดด้วย Shopify Shopify เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ช่วยให้ร้านค้าสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ในระยะยาว โดยเชื่อมต่อกับลูกค้าทุกคนได้ราบรื่นไม่มีสะดุด
การชำระเงิน – มีการรับคำสั่งซื้ออย่างเป็นระบบเมื่อลูกค้าเพิ่มสินค้าลงในตะกร้าสินค้า จากนั้นจึงนำไปสู่ขั้นตอนการกรอกรายละเอียดการจัดส่ง และเลือกข่องทางชำระเงินก่อนสั่งซื้อShopify Markets – สามารถขายสินค้าได้ทุกที่ทั่วโลกผ่าน Shopify Markets จึงช่วยขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้โดยดำเนินการผ่านร้านค้าออนไลน์เพียงร้านเดียวเครื่องมือการตลาด และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า – เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ด้วยเครื่องมือการตลาด, การจัดหมวดหมู่ของลูกค้า, การส่งอีเมลการตลาดหาลูกค้า, ฟีเจอร์อัตโนมัติต่าง ๆ รวมถึงเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าการส่งข้อความ / แชต – สามารถสนทนากับลูกค้า และจัดการข้อความสนทนาได้จากทุกที่ผ่าน Shopify Inbox พร้อมทั้งตั้งค่าข้อความตอบกลับอัตโนมัติ และรับข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำให้การสนทนาทีเกิด Conversion ต่าง ๆ เข่น สมัครสมาชิก หรือซื้อสินค้า เป็นต้นข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์การตลาด – สามารถนำข้อมูลเชิงลึกทางการตลาด รวมถึงรายงานและการวิเคราะห์ของ Shopify มาใช้วางแผนการตลาดได้ Shop App – แอปฯ ของ Shopify ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เพราะสามารถชำระเงิน, ติดตามรายละเอียดคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าได้อย่างง่ายดาย B2B – Shopify ช่วยให้คุณสามารถจัดการลูกค้า B2B (Business to Business), DTC (Direct to Consumer) พร้อมด้วยคำสั่งซื้อและสินค้าคงคลังทั้งหมดในที่เดียวกัน โดยมีหน้าร้านแยกต่างหากให้กลยุทธ์การขาย – กระตุ้นให้เกิด Conversion ด้วยการเสนอราคา โปรโมชันที่สามารถกำหนดเองได้ให้กับลูกค้า โดยสามารถใช้ประโยชน์จากการวางแผนการขายได้ เช่น การพรีออร์เดอร์, ลองก่อนซื้อ หรือการให้ส่วนลดในรูปแบบที่สร้างสรรค์ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้า, เปลี่ยนลูกค้าขาจรให้เป็นลูกค้าประจำ และเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ด้วยแอปฯ สมัครสมาชิก การขายสินค้า – Shopify ข่วยให้การขายสินค้า และการโปรโมตสินค้าในเว็บไซต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มยอดขาย และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ด้วย
ธุรกิจเติบโตด้วย Shopify ได้อย่างไร? Shopify ช่วยเร่งให้ธุรกิจของคุณเติบโต และขยายขนาดธุรกิจได้ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้
Central Admin – มีศูนย์กลางในกาารจัดการธุรกิจ ทำให้สามารถเข้าถึงส่วนต่าง ๆ ของธุรกิจได้จากที่เดียวBack Office / Shopify Fulfillment Network / Deliver – รวมทุกอย่างที่จำเป็นในการจัดการงานด้านต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจหลังบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น อาทิ คำสั่งซื้อ การจัดส่งสินค้า การจัดการสินค้าในสต๊อก รวมถึงการใช้บริการบริษัทพาร์ทเนอร์ที่เูแลด้านขนส่งโดยเฉพาะ Banking: Balance + Capital – จัดการด้านการเงินผ่านเครื่องมือ Balance และ Capital ของ Shopify โดยสามารถจัดการบัญชีของคุณจากที่เดียวด้วย Balance และเข้าถึงเงินทุนอย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วย Capital Shop Pay & Installments – ลูกค้าสามารถชำระเงินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ผ่านการเข้ารหัสเพื่อบันทึกรายละเอียดการชำระเงิน และมีตัวเลือกให้ลูกค้าทั้งการชำระเงินเต็มจำนวนหรือผ่อนชำระเป็นงวดด้วย Shop Pay Mobile App – สามารถใช้แอปฯ Shopify เพื่อดำเนินธุรกิจหรือจัดการร้านค้าผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทุกที่ทุกเวลาแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการคำสั่งซื่อ และอื่น ๆAutomation / Flow – เชื่อมต่อกับลูกค้าได้ตลอดเวลา เมื่อมีระบบอัตโนมัติที่สามารถกำหนดและสร้างเนื้อหา หรือข้อความตอบกลับอัตโนมัติได้เพื่อช่วยให้ปิดการขายกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น
หากต้องการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปสำหรับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ Shopify เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปได้ง่าย ๆ โดยมีแผนใช้งานให้เลือกได้ตามขนาดของธุรกิจ ตั้งแต่แผนสำหรับผู้เริ่มต้น (Shopify Starter) ราคา 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ไปจนถึงแผน Shopify Plus ราคา 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
ที่มา: shopify.com
บทความที่เกี่ยวข้อง: คู่มือ สอนวิธีใช้การใช้งาน และ สอนสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress