https://chat.foxbot.app/webchat/?p=1116283&id=RA4oWc5dayKYU8B9
Video Marketing Form V2

โปรดกรอกฟอร์ม ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชม.

หลังจาก กดส่งฟอร์มแล้ว รบกวนเช็คที่อีเมล Inbox หรือ Junk Mail ทางระบบเราจะมีส่งข้อมูลเพิ่มเติม และตอบกลับให้ทางเมล ภายใน 5 นาที

ติดต่อเรา

10 โปรแกรมยอดฮิตในการหา Keyword SEO

หัวใจของการทำการตลาดออนไลน์ด้วย SEO ก็คือการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสม ซึ่งการเลือกคีย์เวิร์ดก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีเครื่องมือการตลาดดี ๆ มากมาย เข้ามาเป็นตัวช่วยให้เราสามารถหาคีย์เวิร์ดและวางแผนคีย์เวิร์ดให้กับเว็บไซต์ได้ แต่จะมีเครื่องมืออะไรบ้างลองมาดูกัน

10 โปรแกรมยอดฮิตในการหา Keyword SEO

10 โปรแกรมยอดฮิตในการหาคีย์เวิร์ดเพื่อทำ SEO

1. Google Keyword Planner

Google Keyword Planner คือโปรแกรมฟรีจาก Google เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือมือใหม่ เพราะใช้ไม่ยาก ได้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถนำไปต่อยอดเพื่อคิดค้นคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้หลากหลาย ทั้งยังมีฟีเจอร์ดี ๆ อย่างการแนะนำคีย์เวิร์ดจาก Google และมีการแสดงผล Search Volume และอัตราการแข่งขันของคำนั้น ๆ ด้วย

Google Trends เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการตลาดออนไลน์ฟรีที่ดีที่สุดของ Google เพราะช่วยให้เราได้เห็นแนวโน้มที่กำลังมาแรงแบบเรียลไทม์ ในพื้นที่ที่ต้องการ ไปจนถึงแนวโน้มการค้นหาที่ผ่านมา และยังใช้เปรียบเทียบการค้นหาคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ได้ด้วย

3. Keyword Tool.io

Keyword Tool.io เป็นเครื่องมือหาคีย์เวิร์ด ที่สามารถหาคีย์เวิร์ดแบบ Long-tail Keyword ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะประมวลผลจากสถิติต่าง ๆ ที่ผ่านมาของคำนั้นและการค้นหาของผู้คน เป็นต้น

4. Moz: Keyword Difficulty Tool

Keyword Difficulty Tool จาก Moz เป็นโปรแกรมหาคีย์เวิร์ดที่มีประโยชน์มาก ในการทำการตลาดออนไลน์เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์วิเคราะห์คีย์เวิร์ดในระบบค้นหา และช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดที่อัตราแข่งขันไม่สูงให้เราได้

5. Ahrefs

Ahrefs เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่คนทำ SEO ไม่ควรพลาด เพราะมีฟีเจอร์น่าสนใจหลายอย่าง ตั้งแต่การค้นหาคีย์เวิร์ด การวิเคราะห์หน้าเว็บไซต์ของเรา เว็บไซต์คู่แข่ง การคลิกแบบออร์แกนิกและแบบเสียเงิน และยังมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ รองรับการค้นหาแบบระบุพื้นที่ รวมถึงมีการส่งอีเมลข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการทำ SEO ให้กับสมาชิกเป็นประจำ

6. Term Explorer

Term Explorer เป็นเครื่องมือที่คล้ายคลึงกับ Ahrefs ในแง่ของการค้นหาคีย์เวิร์ดแบบเจาะจง และสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาต่อยอดได้ โดย Term Explorer จะสรุปข้อมูลที่ปรากฏในหน้าค้นหาหน้าแรกให้กับผู้ใช้ แยกเป็น จำนวนผลการค้นหา, ประสิทธิภาพของลิงก์, คะแนนความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ และความยากง่ายของการนำคีย์เวิร์ดไปใช้ เป็นต้น

7. SEMrush

ใครที่เน้นศึกษาและวิเคราะห์คู่แข่ง การใช้เครื่องมือ SEMrush เรียกได้ว่าเหมาะสมมาก เพราะมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราจับตามองคู่แข่งได้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีความคล้ายคลึงกับ Google Trend คือสามารถเช็กแนวโน้มการค้นหาได้ด้วย

8. Accuranker

เครื่องมือ Accuranker ช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาอันดับของคีย์เวิร์ด เพราะมีระบบจัดเรียงอันดับแบบอัตโนมัติ เหมาะกับผู้ที่ต้องทำ SEO บ่อย ๆ หรือต้องมีการปรับปรุงเนื้อหาให้รองรับ SEO อยู่เสมอ ที่สำคัญยังสามารถใช้งานร่วมกับ Google Analytics และ Google Search Console ได้ด้วย

9. HubSpot

HubSpot เป็นเครื่องมือที่มีฟีเจอร์เฉพาะตัวคือ Content Strategy เป็นตัวช่วยระบุและค้นหาหัวข้อที่น่าสนใจจากคีย์เวิร์ดที่เราเลือก รวมถึงช่วยค้นหาคำใหม่และหัวข้อย่อยที่น่าสนใจ ซึ่งเราสามารถนำมาปรับให้เข้ากับเนื้อหาและวางแผนสร้าง Organic Traffic ในระยะยาว

10. Serpstat

ปิดท้ายด้วย Serpstat ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ครบครัน สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลของคู่แข่งได้ รวมถึงยังใช้ค้น Long-tail Keyword ได้อีกด้วย

การใช้เครื่องมือเพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดสำหรับทำการตลาดออนไลน์ด้วย SEO นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะช่วยค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เราต้องการได้แล้ว ยังช่วยวิเคราะห์คู่แข่ง ค้นหาคีย์เวิร์ดแบบยาว หัวข้อที่น่าสนใจ จนถึงข้อมูลสถิติต่าง ๆ ที่เราสามารถนำมาใช้ต่อยอดได้อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง: สอนเทคนิคหา Keyword SEO จากเครื่องมือ Google Keyword

I Plan Digital Agency
I Plan Digital Agency
Articles: 281
4 เทคนิคเพิ่มยอดขายด้วย TikTok Ads (TikTok Shop Part 11) 4 แนวทางขายของบน TikTok Shop ให้โดนใจสายแม่บ้าน สรุป 5 สถิติ TikTok Shop ประจำปี 2566 เช็กลิสต์ 5 สินค้าขายดีบน TikTok ปี 2023 5 เรื่องต้องรู้! ก่อนขายของบน TikTok