https://chat.foxbot.app/webchat/?p=1116283&id=RA4oWc5dayKYU8B9
Video Marketing Form V2

โปรดกรอกฟอร์ม ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชม.

หลังจาก กดส่งฟอร์มแล้ว รบกวนเช็คที่อีเมล Inbox หรือ Junk Mail ทางระบบเราจะมีส่งข้อมูลเพิ่มเติม และตอบกลับให้ทางเมล ภายใน 5 นาที

ติดต่อเรา

รู้จัก WooCommerce ของฟรีดี ๆ มีอยู่จริง กับ 10 เหตุผลที่ร้านค้าออนไลน์เลือกใช้งาน

Share
WooCommerce 4
WooCommerce

ปัจจุบันมีช่องทางการขายของออนไลน์มากมายที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น การสร้างร้านค้าออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมที่หลายแบรนด์เลือกใช้  

บทความนี้เราจะไปทำความรู้จักการใช้งาน WooCommerce ที่ช่วยให้คุณออกแบบร้านค้าออนไลน์ง่าย ๆ ด้วยตัวเองอย่างเป็นมืออาชีพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อม 10 เหตุผลว่าทำไมร้านค้าออนไลน์จึงเลือกใช้งาน 

WooCommerce คืออะไร

WooCommerce เป็นปลั๊กอินฟรีในเว็บไซต์ WordPress ที่จะช่วยเปลี่ยนให้เว็บไซต์ของคุณกลายเป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซได้อย่างมืออาชีพ โดยเป็นปลั๊กอินเสริมใน WordPress ที่จะช่วยให้การสร้างและจัดการร้านค้าออนไลน์เป็นเรื่องง่าย และยังมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์มากมาย ซึ่งรวมถึงการติดตามคำสั่งซื้อ การอัปเดตสถานะการส่งสินค้าให้กับลูกค้าด้วย ทำให้ WooCommerce มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 27 ล้านครั้ง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมร้านค้าออนไลน์ใน WordPress กว่า 99% เลือกใช้ปลั๊กอินนี้  

WooCommerce เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 โดยสองนักพัฒนาอย่าง Mike Jolley และ James Koster ที่ต้องการทำปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซเลียนแบบ Jigoshop ก่อนที่ในปี 2015 Automattic บริษัทแม่ของ WordPress จะเข้าซื้อกิจการ WooCommerce และปลั๊กอินในเครือ WooThemes   

วิธีติดตั้งปลั๊กอิน WooCommerce

การติดตั้งปลั๊กอิน WooCommerce ทำได้ง่าย ๆ เพียง 4 ขั้นตอนดังนี้  

1. ไปที่ WordPress dashboard 

2. เลือก “ตัวเลือกปลั๊กอิน”   

3. ค้นหาคำว่า “WooCommerce”  

4. ดาวน์โหลดปลั๊กอินไปยังเว็บไซต์ WordPress  

เมื่อดาวน์โหลดและติดตั้งปลั๊กอินเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแนะนำขั้นตอนในการสร้างร้านค้าออนไลน์ต่อไป 

10 เหตุผลที่ควรเลือกใช้งาน WooCommerce

ทุกวันนี้ WooCommerce  ก็ยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะใช้งานง่ายแล้ว ก็เข้ากันได้ดีกับปลั๊กอินตัวอื่น ๆ ใน WordPress ด้วย และนี่คือ 10 เหตุผลว่าทำไมร้านค้าออนไลน์ควรใช้งานWooCommerce  

1. WooCommerce ใช้งานฟรี 

เหตุผลแรกคือปลั๊กอิน WooCommerce สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี โดยผู้ใช้งานไม่ต้องเสียค่าบริการรายปีแพง ๆ จึงทำให้เจ้าของกิจการร้านค้าลดค่าใช้จ่ายในการซื้อซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ หรือเสียค่าใช้จ่ายสูง ๆ ในส่วนนี้ แต่ถ้าต้องการเพิ่มส่วนขยายอื่น ๆ หรือการชำระเงินด้วย WooCommerce ก็อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน 

 

2. WooCommerce เป็นระบบโมดูลาร์ 

WooCommerce ถูกออกแบบการใช้งานให้เป็นแบบระบบโมดูลาร์ที่สามารถเพิ่มส่วนขยายปลั๊กอินอื่น ๆ ได้ ดังนั้นผู้ใช้งาน WooCommerce จึงได้ประโยชน์เป็นสองเท่า เพราะไม่เพียงเข้าถึงปลั๊กอินและธีมของWordPress ได้หลายพันรายการได้แล้ว ยังมีทีมงานผู้พัฒนาที่คอยสร้างส่วนขยายอื่น ๆ เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการทำงานที่โปรแกรมทั่วไปไม่สามารถทำได้อีกด้วย 

 

 3. WooCommerce ทำงานร่วมกับ WordPress ได้ลงตัว 

WooCommerce เป็นปลั๊กอินเสริมของ WordPress ที่ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี และเนื่องจาก WordPress เป็นเว็บไซต์ยอดนิยมที่ธุรกิจหลายล้านรายเลือกใช้ จึงมีระบบการทำงานที่รวดเร็ว ปลอดภัย และใช้งานง่าย ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่าง WordPress และ WooCommerce เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่สะดุด  

 

4. WooCommerce ขายอะไรก็ได้  

WooCommerce เป็นปลั๊กอินที่มีความยืดหยุ่นอย่างแท้จริง จึงเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ในการขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ  ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่จับต้องได้ การลงทะเบียน สมัครสมาชิก การนัดหมาย สินค้าที่เป็นชิ้นเดียวหรือจำนวนมากมาย  WooCommerce จึงเปรียบเสมือนแอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซสารพัดประโยชน์  

 

5. WooCommerce มีนักพัฒนาที่พร้อมช่วยเหลือ  

ทั้ง WooCommerce และ WordPress ต่างเป็นซอฟต์แวร์แบบ Open source หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าใครก็สามารถใช้งาน ดัดแปลง แก้ไข หรือเพิ่มฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ที่สำคัญ WooCommerce ยังมีกลุ่มนักพัฒนาและมืออาชีพจำนวนมากที่พร้อมสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ ถ้าต้องการปรับปรุงร้านค้า  WooCommerce ก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด และด้วยการใช้งานที่แพร่หลายและมีทีมพัฒนาที่เป็นเครือข่าย ทำให้อุ่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น  

 

6. WooCommerce มีระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ทรงพลัง 

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของ WooCommerce คือ มีระบบการวิเคราะห์ข้อมูลในตัวที่จะช่วยในการวิเคราะห์ลูกค้าและทำให้รู้จักลูกค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีเครื่องมือการวิเคราะห์อื่น ๆ อีกมากมายที่ใช้งานง่าย และยังสามารถใช้งานร่วมกับผู้ให้บริการเจ้าอื่น ๆ อย่าง Google Analytics ในการเป็นส่วนขยายได้อีกด้วย 

 

7. WooCommerce รองรับการเติบโตของธุรกิจของคุณ 

ไม่ว่าร้านค้าออนไลน์ของคุณจะเป็นร้านค้าขนาดเล็กหรือใหญ่ก็สามารถใช้งาน WooCommerce ได้ เพราะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ จึงสามารถจัดการสินค้าจากสินค้าเพียงไม่กี่รายการไปจนถึงสินค้าหลายพันรายการ และจากผู้ซื้อไม่กี่รายต่อวันเป็นผู้ซื้อหลายร้อยรายต่อวินาที ดังนั้นเมื่อเว็บไซต์ของคุณโตขึ้น ฟังก์ชันการทำงานของ WooCommerce ก็ยังสามารถทำงานร่วมกับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

8. WooCommerce มีระบบการจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ (CMS) ชั้นเลิศ 

คอนเทนต์ด้านการตลาดอีคอมเมิร์ซถือเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับร้านค้าออนไลน์ จึงต้องมีระบบการจัดการเนื้อหาเว็บไซต์หลังบ้าน (CMS) ซึ่ง WooCommerce มีระบบ CMS ที่ยอดเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตัวเลือกในการจัดการเนื้อหาที่หลากหลายให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้ รวมถึงการทำบล็อก แลนดิ้งเพจ และการทำการตลาดผ่านอีเมลด้วย อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับปลั๊กอิน SEO อย่างYoast WooCommerce SEO ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพคอนเทนต์ให้ค้นหาได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย  

 

9. WooCommerce โหลดหน้าเว็บได้รวดเร็ว 

ทั้ง WordPress และ WooCommerce สามารถตอบสนองได้ดีกับร้านค้าออนไลน์ทุกขนาดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถโหลดหน้าเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ แต่ถ้าต้องการที่จะเพิ่มความเร็วให้กับร้านค้ายิ่งขึ้นก็สามารถทำได้ผ่านการใช้โฮสติ้ง WooCommerce ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน 

 

10. WooCommerce ถูกออกแบบมาเพื่อการขาย  

ข้อดีอีกอย่างของ WooCommerce คือถูกออกแบบมาเพื่อการขายให้กับร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ ดังนั้นจึงมีทุกสิ่งที่ผู้ใช้งานอีคอมเมิร์ซรายใหม่ต้องการเพื่อเริ่มต้นและใช้งาน ดังนี้ 

  • มีบริการชำระเงินออนไลน์กว่า 100 แห่งที่สามารถเข้ากับร้านค้าของคุณได้  
  • มีวิธีการจัดส่งและจัดการสินค้าหลายวิธี 
  • มีระบบหลังบ้านที่ใช้งานง่าย ช่วยให้จัดการร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • สามารถเลือก ธีม WooCommerce ระดับพรีเมียมได้ฟรี หรือสร้างธีมที่กำหนดเองเพื่อให้ร้านค้ามีหน้าตาที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร 
  • มีคู่มือชั้นเลิศที่มีคำแนะนำสำหรับผู้ใช้งานอีคอมเมิร์ซรายใหม่   

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คงจะเห็นกันแล้วว่า WooCommerce มีการทำงานที่เป็นมืออาชีพ รวดเร็ว ใช้งานง่าย และยังสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณได้  จึงตอบโจทย์ในการสร้างร้านค้าออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และแสดงให้เห็นว่าของฟรีดี ๆ มีอยู่จริง! 

ที่มา: nexcess.net 

บทความอื่น ๆ: 6 เหตุผลต้องรู้! ทำไมควรใช้ WordPress ในปี 2022

I Plan Digital Agency
I Plan Digital Agency
Articles: 270
4 เทคนิคเพิ่มยอดขายด้วย TikTok Ads (TikTok Shop Part 11) 4 แนวทางขายของบน TikTok Shop ให้โดนใจสายแม่บ้าน สรุป 5 สถิติ TikTok Shop ประจำปี 2566 เช็กลิสต์ 5 สินค้าขายดีบน TikTok ปี 2023 5 เรื่องต้องรู้! ก่อนขายของบน TikTok