6 องค์ประกอบสำคัญในการทำ Local SEO ให้มีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันไม่ว่าจะทำธุรกิจอยู่ในพื้นที่ใด ก็จำเป็นต้องมีเว็บไซต์หรือใช้โซเชียลมีเดียเพื่อช่วยทำการตลาด สร้างการรับรู้ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และถ้าอยากให้ธุรกิจของคุณค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น หน้า Local Landing Page หรือ Location Page สำหรับธุรกิจท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญมาก และการทำ Local SEO ที่มีประสิทธิภาพ ก็สามารถส่งผลให้ติดอันดับ Google ได้ง่ายขึ้น
หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่า Google ไม่ชอบจัดอันดับ Local Landing Page ซึ่งสิ่งที่ Google ไม่ชอบและมีผลต่อการมองเห็นในการทำ Local SEO ของLocal Landing Page คือสิ่งเหล่านี้
- Location Page ที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ
- การสร้างหน้า Location Page ในพื้นที่ธุรกิจที่ไม่มีสถานที่ตั้งอยู่จริง
- มีเนื้อหาที่เหมือนกัน เพียงแค่เปลี่ยนชื่อสถานที่เท่านั้น
- คัดลอกข้อมูลเกี่ยวกับประวัติสถานที่มาจาก Wikipedia
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกกลยุทธ์การทำ Local Landing Page ที่ไม่เพียงแต่จะติดอันดับการค้นหาและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจอย่างได้ผลดีเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณในชุมชนด้วย
สารบัญ
องค์ประกอบสำคัญของ Local Landing Page ในการทำ Local SEO
หน้า Local Landing Page ที่ดี จะช่วยให้ธุรกิจของคุณติดอันดับการค้นหาในท้องถิ่น และเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ได้ตรงตามความต้องการ และนี่คือ 6 ประกอบสำคัญในการทำ Local SEO เพื่อให้ Location Page ติดอันดับ Google และขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ในท้องถิ่น
1. URL ที่ระบุพื้นที่หรือ Location ชัดเจน
การทำ Local SEO ด้วย การเพิ่มคีย์เวิร์ดใน URL จะทำให้ธุรกิจท้องถิ่นติดอันดับได้ ซึ่งสิ่งสำคัญคือการใส่ทั้งบริการและที่ตั้งของธุรกิจไว้ใน URL เพื่อให้ตรงกับคีย์เวิร์ดที่ต้องการใช้สำหรับ Location Page
โดยการตั้งชื่อ URL เมื่อใส่ทั้งบริการ และที่ตั้งจะได้ URL ดังนี้ www.example.com/service/location ซึ่งจะทำให้ Google ค้นหาธุรกิจของคุณเจอได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับธุรกิจที่ให้บริการในหลายพื้นที่ ให้ตั้งชื่อ URL โดยขึ้นด้วยที่ตั้งก่อนแล้วตามด้วยบริการก่อน ดังนี้ www.example.com/location/service
2.ใส่บริการ และที่ตั้งใน Heading 1 และ Title Tag
การใส่บริการและที่ตั้งของธุรกิจคุณในหัวข้อ Heading 1 (H1) และ Title Tag จะช่วยให้หน้าเว็บติดอันดับการค้นหาได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นการทำ Local SEO ที่ส่งสัญญาณให้ Google ทราบว่าหน้าเพจให้บริการเกี่ยวกับเรื่องใด และยังช่วยให้ผู้งานทราบด้วยว่าเมื่อคลิกเข้ามาที่หน้าเพจแล้ว พวกเขาจะได้ได้ข้อมูลอย่างที่ต้องการ
และเพื่อให้การทำ Local SEO กับการเขียนเนื้อหาให้ดึงดูดใจไปในทิศทางเดียวกัน ให้เริ่มด้วยการใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับบริการและที่ตั้งก่อน จากนั้นค่อยตามด้วยข้อเสนอขายที่กระตุ้นให้คนเลือกธุรกิจของคุณมากกว่าคู่แข่ง เช่น Plumber Manhattan | 24/7 Emergency Plumbing across New York (ช่างประปาแมนฮัตตัน | บริการซ่อมท่อประปาฉุกเฉินทั่วนิวยอร์กตลอด 24 ชั่วโมง) หรือ New York Aged Care | We’re #1 in NYC for Resident Experience (ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในนิวยอร์ก | เราเป็นที่ 1 ของนิวยอร์ก ด้านประสบการณ์ของผู้ที่เข้าพัก)
3. การออกแบบหน้าเพจเพื่อกระตุ้นให้เกิด Conversion
หน้า Homepage ของเว็บไซต์มักจะได้รับการออกแบบที่สวยงามมากกว่าหน้าเพจอื่น ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าคนจำนวนมากค้นเจอเว็บไซต์ของคุณเจอผ่านหน้า Location Page ก่อน โดยที่ยังไม่เห็นหน้า Homepage เสียด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุนี้ การทำธุรกิจท้องถิ่นจึงควรให้ความสำคัญกับการออกแบบหน้า Local Landing Page โดยคำนึงถึง User Experience หรือประสบการณ์ของผู้ใช้งานและศักยภาพในการกระตุ้นให้เกิด Conversion เพราะเมื่อผู้ใช้งานเข้ามาในหน้า Location Page แล้ว สิ่งแรกที่พวกเขาจะเห็นคือพื้นที่ครึ่งบนของเพจนั่นเอง ดังนั้น จึงต้องดีไซน์ให้ดึงดูดความสนใจ และกระตู้นให้คนอยากคลิกที่ปุ่ม Call to Action และเลื่อนดูรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติม ซึ่งการทำ Local SEO ในหน้า Location Page ทำได้ดังนี้
- เน้นจุดขายที่ไม่เหมือนใคร ให้ความสำคัญกับเนื้อหาและการดีไซน์หน้าเพจ เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณดูแตกต่างและโดดเด่น
- นำเสนอรีวิวเชิงบวก ฝังลิงก์ Embed ที่มีผู้คนรีวิวธุรกิจของคุณในแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Google Business หรือ Facebook เป็นต้น
- ตอบโจทย์คนที่ค้นหา หากผู้ใช้งานต้องการติดต่อในรูปแบบออฟไลน์ ก็ต้องมีช่องทางติดต่อที่อำนวยความสะดวกให้พวกเขาเข้าถึงได้ง่ายด้วย
- แสดงให้เห็นว่าธุรกิจตั้งอยู่ในพื้นที่นั้น คนส่วนใหญ่มักเลือกธุรกิจที่อยู่ใกล้ ๆ หรือพื้นที่ใกล้เคียง จึงต้องแสดงให้เห็นชัดเจนว่าตั้งอยู่ในพื้นที่นั้นจริง
- มีปุ่ม Call to Action ชัดเจน ควรทำปุ่ม Call to Actionให้ชัดเจน พร้อมข้อความน่าสนใจเพื่อกระตุ้นให้เกิด Conversion
4.แผนที่และภาพถ่ายจริง
แผนที่และภาพถ่ายจากสถานที่จริง เป็นสิ่งที่ทรงพลังสำหรับการทำ Local SEO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่าธุรกิจของคุณมีสถานที่ตั้งอยู่จริง และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ดังนั้นในหน้า Location Page ควรจะมีสิ่งเหล่านี้
แผนที่ในพื้นที่ที่ให้บริการ
หากเป็นธุรกิจที่ให้บริการในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งแต่ไม่มีหน้าร้าน ให้เพิ่มแผนที่ที่เน้นพื้นที่ที่ธุรกิจของคุณให้บริการแทน แต่หากมีที่ตั้งชัดเจนสามารถเพิ่มแผนที่พร้อมเส้นทางในการขับขี่เข้าไปด้วย หรือเน้นย้ำว่าสถานที่ตั้งของธุรกิจ “อยู่ห่างจากพื้นที่… เพียง…นาที” พร้อมคำแนะนำวิธีการเดินทางที่ดีที่สุดเพื่อไปยังสถานที่ตั้งของคุณ
รูปภาพสถานที่จริง
เพื่อความน่าเชื่อถือควรใช้รูปภาพสถานที่จริง ดีกว่าใช้ภาพสต็อก โดยอาจเป็นรูปภาพที่เห็นการให้บริการ และมีโลโก้แบรนด์ และข้อมูลในการติดต่อ ซึ่งเป็นการทำ Local SEO ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีตัวตนอยู่จริง ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะมาใช้บริการ
ภาพด้านนอกของสถานที่ พร้อมโลโก้
ภาพประเภทนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับหน้าร้านหรือธุรกิจที่ลูกค้าต้องเดินทางมาใช้บริการ จึงควรใช้ถ่ายภาพด้านนอกของสถานที่เห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน พร้อมทั้งแสดงให้เห็นโลโก้บริษัทหรือแบรนด์อย่างเด่นชัด
ภาพถ่ายบริเวณต้อนรับ
ถ่ายภาพบริเวณต้อนรับและพนักงานที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายลูกค้า จะช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง เป็นการสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าก่อนจะเข้ามาใช้บริการ ซึ่งในภาพควรเห็นโลโก้แบรนด์ และมีพนักงานที่กำลังให้บริการด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจ
รูปภาพทีมงาน
การเพิ่มรูปภาพทีมงานประจำสาขาแต่ละแห่ง เพื่อช่วยสร้างความรู้สึกคุ้นเคยให้กับผู้ที่จะไปใช้บริการ โดยอาจจะเป็นรูปพนักงานที่อยู่ในพื้นที่ที่ให้บริการ หรือในกรณีที่เป็นธุรกิจที่ให้บริการทั้งแบบมีพนักงานประจำออฟฟิศ และพนักงานประจำสาขา ก็อาจจะใช้ภาพถ่ายบุคคล พร้อมระบุตำแหน่งก็ได้เช่นกัน
ภาพถ่ายระยะใกล้
ภาพถ่ายระยะใกล้ (Close-up) ที่แสดงให้เห็นการให้บริการของพนักงาน จะช่วยสื่อถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการให้บริการได้ และยังช่วยให้ทราบด้วยว่าธุรกิจของคุณให้บริการในด้านใด ซึ่งดีกว่าการใช้ภาพสต๊อกทั่วไป
ภาพวิดีโอหรือทัวร์ Virtual Tour 360°
ภาพวิดีโอจะช่วยให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้เห็นและสัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่าภาพนิ่ง ได้เห็นรายละเอียดในการทำงาน ความใส่ใจของทีมงาน ขณะที่ Virtual Tour 360° ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจที่ทำให้เห็นทุกรายละเอียดเหมือนได้อยู่ในสถานที่จริง
5. ใส่ Internal Link หรือกล่าวถึงบริการที่มีในพื้นที่
การใส่ Internal Link และการกล่าวถึงบริการที่มีในแต่ละพื้นที่ ช่วยเรื่องการทำ Local SEO ได้ดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาธุรกิจหรือบริการ ด้วยการใส่คีย์เวิร์ด “บริการ + สถานที่” ที่ผู้คนเข้าไปค้นหา
- ช่วยให้ผู้เข้าชมเพจได้เข้าข้อมูลชัดเจนว่าแต่ละสาขาของคุณให้บริการอะไรบ้าง
- สามารถเพิ่มข้อมูลที่กำหนดเองได้ เช่น ส่วนลด หรือข้อเสนอที่มีมีให้เฉพาะพื้นที่ และสามารถจัดลำดับความสำคัญตามสิ่งที่ผู้เข้าชมเพจต้องการ
ทั้งนี้ ในการออกแบบ Local Landing Page สามารถใส่ Internal Link เพื่อพาผู้ที่เข้าชมเพจไปยังหน้าบริการเฉพาะ หรืออาจจะเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวกับแต่ละบริการลงในหน้า Location Page เพื่อเป็นการทำ Local SEO อีกทางหนึ่งด้วย
6. เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยรีวิว และการรับรองต่าง ๆ
การแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของธุรกิจเป็นสิ่งที่จำเป็นในโลกออนไลน์ ทั้งรีวิวจากผู้ใช้งานจริง การแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญ เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่มีความน่าเชื่อถือเป็นลำดับแรก ซึ่งองค์ประกอบในการทำ Local SEO ให้น่าเชื่อถือ มีดังนี้
- รีวิวที่รวบรวมจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ
- การรับรองและใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
- ใบอนุญาตที่ออกโดยหน่วยงานรัฐบาล
- ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ (ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ เวลาเปิด-ปิด)
- รายละเอียดเกี่ยวกับทีมงานประจำสาขา
- ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
- ภาพ Before-After และ Success Case ของลูกค้า
การที่ Google ให้ความสำคัญกับนำเสนอแบรนด์หรือธุรกิจที่น่าเชื่อถือ ถือเป็นความท้าทายสำหรับเจ้าของธุรกิจหรือแบรนด์ในการทำ Local SEO เพื่อให้หน้า Location Page ติดอันดับการค้นหา เนื่องจากมีการแข่งขันค่อนข้างสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อธุรกิจต่าง ๆ เริ่มแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถให้บริการชุมชนท้องถิ่นได้ดีที่สุดอย่างไร ซึ่งกลยุทธ์ทั้ง 6 ข้อเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการทำ Local SEO
ที่มา : ahrefs.com
บทความที่เกี่ยวข้อง. SEO คืออะไร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างไร