

Airtable เป็นแพลตฟอร์มการสร้างตาราง Spreadsheet ที่ผสมผสานระหว่างตารางแบบ Excel กับการรวมฐานข้อมูล (Database) ไว้ในที่เดียวกัน
ความโดดเด่นของ Airtable คือใช้งานง่าย สามารถสร้างตารางเพื่อเป็นฐานข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ต่างจากการสร้างตาราง Excel แบบเดิม ๆ แม้ว่าหน้าตาของตารางคล้ายกับ Spreadsheet ที่หลายคนคุ้นเคยและยังมีฟีเจอร์ที่แตกต่าง อาทิ
Spreadsheet คือโปรแกรมสร้างตารางที่ประกอบไปด้วยคอลัมน์, แถว, เซลล์ ซึ่งโปรแกรมที่ได้รับความนิยมและหลายคนคุ้นเคยกันก็คือ Excel ของ Microsoft และ Google Sheets ของ Google นั่นเอง โดยคอลัมน์จะไว้สำหรับใส่ข้อความต่าง ๆ และมีชื่อคอลัมน์ระบุไว้ด้านบน ขณะที่แถวต่าง ๆ จะมีตัวเลขกำกับไว้ด้านหน้าสุด
ตาราง Spreadsheet เหล่านี้ ถือเป็นการเก็บข้อมูลที่สามารถคำนวณหาผลลัพธ์ออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่หากมีความจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจำนวนมาก รวมถึงมีโครงสร้างอื่น ๆ ที่มากขึ้นด้วยก็อาจจำเป็นต้องใช้ Database หรือฐานข้อมูลมาในการจัดเก็บข้อมูลแทน
Database หรือฐานข้อมูลจะช่วยให้การจัดเก็บ รวมถึงการจัดการข้อมูล และดึงข้อมูลมาใช้งานได้ง่ายขึ้น ซึ่งแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ที่เราใช้งานกันทุกวันนี้ ก็จะมีฐานข้อมูลไว้สำหรับจัดเก็บข้อมูลเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Facebook จะมีฐานข้อมูลของผู้ใช้งาน, กลุ่มในเฟซบุ๊ก, อีเวนต์ต่าง ๆ หรือองค์กรอย่างธนาคารก็จะมีฐานข้อมูลด้วยเช่นกัน เพื่อจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า, ชื่อบัญชี, ใบแจ้งหนี้ต่าง ๆ
ฟีเจอร์เด่นของ Airtable คือตารางที่สร้างขึ้นมาสามารถเชื่อมโยงไปอีกตารางได้โดยมีความสัมพันธ์ระหว่างกัน จึงมีคุณสมบัติของการเป็นฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational database) อย่างแท้จริง
หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ให้ลองจินตนาการถึงการสร้างฐานข้อมูลเกี่ยวกับสโมสรฟุตบอลสัก 1 ทีม ซึ่งตารางข้อมูลที่จะต้องสร้างประกอบด้วย ทีม, ผู้เล่น, ทีมโค้ช และแมตช์แข่งขัน โดยตารางเหล่านี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน เนื่องจากทีมต้องประกอบไปด้วยผู้เล่นและทีมสต๊าฟโค้ช, แมตช์แข่งขันในแต่ละนัดจะประกอบไปด้วย 2 ทีมที่ลงแข่งขันกัน ซึ่ง Airtable สามารถสร้างลิงก์ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์เหล่านี้ได้ จึงทำให้การใส่ข้อมูลในแต่ละตารางทำได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
นอกจาก Airtable จะช่วยให้จัดการข้อมูลในรูปแบบโปรแกรม Excel ได้ง่ายยิ่งขึ้นแล้ว ก็ยังมีประโยชน์อีกหลายประการ ดังนี้
ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Airtable ที่ให้มานั้น ทำให้ใช้งานได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องใส่โค้ดให้ยุ่งยาก จึงได้รับความนิยมในธุรกิจต่าง ๆ และนี่คืองานประเภทต่าง ๆ ที่เหมาะกับการใช้งาน Airtable เพื่อให้การทำงานราบรื่นยิ่งขึ้น
กด + ตรงแถบ Workspace ทางฝั่งข้ายมือ หรือด้านล่างสุด เพื่อสร้าง Workspace สำหรับทำงานร่วมกันภายในทีม โดยสามารถตั้งชื่อโปรเจกต์หรืองานที่รับผิดชอบได้
หากเพิ่งใช้งานครั้งแรก ผู้ใช้งานสามารถก๊อปปี้เทมเพลตสำเร็จรูปที่มีอยู่ใน Airtable มาใช้งานได้เลย เนื่องจากเทมเพลตเหล่านี้มีการออกแบบที่รองรับการทำงานไว้หลากหลายรูปแบบ ซึ่ง Base ที่สร้างขึ้นมานั้น จะเป็นฐานข้อมูลสำหรับโปรเจกต์ใดโปรเจกต์หนึ่ง ดังนั้น ใน Workplace เดียวกันจึงสามารถสร้าง Base ใหม่ ๆ ขึ้นมาได้
จากนั้นก็เลือกมุมมองของ Base ว่าต้องการให้เห็นหน้าจอเป็นแบบใด อาทิ ตาราง, ปฏิทิน, กระดานทำงานแบบ Kandan หรือแบบฟอร์มกรอกข้อมูล พร้อมทั้งสามารถมอบหมายงานให้เพื่อนร่วมงาน และกำหนดบทบาทในการเข้าถึงข้อมูลได้ด้วย ขณะเดียวกันก็สามารถแชร์ Base ที่ต้องการให้กับบุคคลภายนอก เช่น ลูกค้า ดูได้ด้วย
เพียงเท่านี้ เราก็จะได้ Spreadsheet ที่สามารถจัดเก็บฐานข้อมูลได้หลากหลายตามความต้องการ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานร่วมกันเป็นทีมเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น!
บทความที่เกี่ยวข้อง: รู้จัก Microsoft Teams แพลตฟอร์มทำงานเป็นทีม ตอบโจทย์ทั้งบริษัทและองค์กร