Clinic Marketing (#15) (#18)

https://chat.foxbot.app/webchat/?p=1116283&id=RA4oWc5dayKYU8B9
Video Marketing Form V2

โปรดกรอกฟอร์ม ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชม.

หลังจาก กดส่งฟอร์มแล้ว รบกวนเช็คที่อีเมล Inbox หรือ Junk Mail ทางระบบเราจะมีส่งข้อมูลเพิ่มเติม และตอบกลับให้ทางเมล ภายใน 5 นาที

วิเคราะห์เทรนด์ตลาดงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025

เมื่อมหกรรมสุขภาพสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ปิดฉากลง สิ่งที่ทิ้งไว้ไม่ใช่เพียงความทรงจำของผู้เข้าร่วมงานนับหมื่น แต่คือ “ข้อมูลเชิงลึก” มหาศาลที่สะท้อนทิศทางของอุตสาหกรรมสุขภาพและเวลเนสมูลค่า 1.2 ล้านล้านบาทของไทยอย่างชัดเจนที่สุด

สำหรับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจ การมองย้อนกลับไปที่งานนี้ไม่ใช่แค่การดูภาพบรรยากาศ แต่คือการ “ถอดรหัส” เทรนด์ของผู้บริโภค, การวิเคราะห์กลยุทธ์ของคู่แข่ง, และการค้นหาโอกาสทางธุรกิจที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางบูธกว่า 170 บูธ บทความนี้คือบทสรุปเชิงวิเคราะห์ ที่จะพาคุณมองทะลุความสำเร็จของงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 เพื่อค้นหา Key Takeaway ทางกลยุทธ์ ที่จะสร้างความได้เปรียบให้แบรนด์ของคุณในปีต่อไป

ภาพสะท้อนตลาด 1.2 ล้านล้าน ตัวเลขและพันธมิตรที่ยืนยันความสำเร็จ

“ความสำเร็จของงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ซึ่งคาดว่าจะสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 120 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นภาพสะท้อนของตลาดที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด” คำกล่าวเปิดงานของ หม่อมหลวง ภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ตอกย้ำถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมนี้ที่มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 6-8% ต่อปี

การผนึกกำลังของหน่วยงานระดับประเทศ ตั้งแต่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, BOI, EEC, สภาอุตสาหกรรมฯ ไปจนถึงสถาบันการเงินชั้นนำ นอกจากจะสร้างความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงนักการตลาดว่า นี่คืออุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนและมี Ecosystem ที่แข็งแกร่งรองรับ การที่ภาครัฐคัดเลือกผู้ประกอบการกว่า 30 ธุรกิจเข้าร่วม และ EEC นำสินค้าภายใต้ตราสัญลักษณ์ EEC SELECT มาจัดแสดง ถือเป็นการการันตีคุณภาพและสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับแบรนด์ที่เข้าร่วมอย่างมหาศาล

ถอดรหัสผู้บริโภคผ่าน 9 โซนไฮไลต์ในงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025

โครงสร้างของงานที่แบ่งออกเป็น 9 โซน คือแผนที่ชั้นดีที่ช่วยให้เราวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างชัดเจน นี่คืออินไซต์เชิงลึกจากแต่ละโซน:

1. Healthcare & Medical Industry Zone

เทรนด์การแพทย์เชิงป้องกัน (Preventive Medicine) คือพระเอกตัวจริง ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่การรักษา แต่ต้องการ “รู้ก่อน-ป้องกันก่อน” แบรนด์ที่นำเสนอโซลูชันการตรวจสุขภาพเชิงรุก เช่น เครื่องสแกนร่างกาย 3 มิติจากชีวาโน่ จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม นี่คือสัญญาณว่าการตลาดที่เน้นการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ (Awareness) คือกุญแจสำคัญ

2. Future Food & Food Supplement Zone

ยุคของ “Food as Medicine” มาถึงอย่างเต็มตัว ผู้บริโภคยุคใหม่มองหาอาหารและอาหารเสริมที่มี Function ชัดเจนและมีงานวิจัยรองรับ แบรนด์ที่สามารถสื่อสารเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ได้อย่างเข้าใจง่าย จะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือและครองใจตลาดได้

3. Skin Care Zone

ตลาดความงามได้หลอมรวมกับสุขภาพอย่างสมบูรณ์ เทรนด์ “Health-Beauty” หรือ “Beauty from Within” ถูกพิสูจน์แล้วจากความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติและนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น สกินแคร์ทุเรียนจาก EEC ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบท้องถิ่น

4. Digital Health Zone

ผู้บริโภคต้องการเป็นเจ้าของข้อมูลสุขภาพของตนเอง (Empowered Consumer) แอปพลิเคชันและแกดเจ็ตที่ช่วยติดตามข้อมูล, วิเคราะห์, และให้คำแนะนำส่วนบุคคล (Personalization) คือสิ่งที่ตลาดต้องการ แบรนด์ที่สร้าง Ecosystem ดิจิทัลได้ครบวงจรจะกลายเป็นผู้นำในตลาดนี้

5. Wellness Zone

สุขภาพจิต (Mental Wellness) และ “เศรษฐกิจแห่งประสบการณ์” (Experience Economy) คือหัวใจของโซนนี้ ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อแค่บริการ แต่ซื้อ “ประสบการณ์” การฟื้นฟูที่จับต้องได้ ธุรกิจสปา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และศาสตร์บำบัดทางเลือก จึงต้องเน้นการสร้างบรรยากาศและเรื่องราวที่น่าจดจำ

6. Fitness & Lifestyle Zone

ตลาดฟิตเนสขยายตัวออกจากยิมสู่บ้าน (Home Fitness) และกิจกรรมกลางแจ้งอย่างชัดเจน อินไซต์สำคัญคือ “คอมมูนิตี้” และ “Gamification” แบรนด์ที่สามารถสร้างแพลตฟอร์มให้ผู้ใช้งานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและสนุกไปกับการออกกำลังกาย จะสามารถสร้างความภักดีของลูกค้าในระยะยาวได้

7. Specialized Zone – Jin Wellbeing County

ตลาดผู้สูงวัย (Silver Age Market) ไม่ใช่เรื่องของการดูแลยามเจ็บป่วยอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของ “Active Aging” หรือการใช้ชีวิตวัยเกษียณอย่างมีคุณภาพและมีพลัง การสื่อสารต้องเน้นไปที่ไลฟ์สไตล์, คอมมูนิตี้, และกิจกรรมที่ส่งเสริมศักยภาพ ถือเป็นตลาด Blue Ocean ที่มีกำลังซื้อสูงมาก

8. Specialized Zone – Bank & Investor Zone

การมีโซนนี้โดยเฉพาะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า อุตสาหกรรม Wellness “น่าลงทุน” (Bankable) และเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ นี่คือโอกาสสำหรับแบรนด์ SME และสตาร์ทอัพในการมองหาแหล่งทุนเพื่อขยายธุรกิจ และเป็นเครื่องยืนยันความแข็งแกร่งของตลาดโดยรวม

9. Specialized Zone – Food Zone

สะท้อนความต้องการที่ชัดเจนของผู้บริโภคในเมือง ที่มองหาอาหารสุขภาพที่มาพร้อมกับ “ความสะดวกสบาย” (Convenience) ตลาดอาหารสุขภาพพร้อมทาน (Ready-to-Eat), Meal Plan Delivery, และ Cloud Kitchen ที่เน้นเมนูสุขภาพ ยังมีโอกาสเติบโตอีกมหาศาล

ห้องเรียนและห้องเจรจาธุรกิจในงาน Expo

สำหรับนักกลยุทธ์ที่มองการณ์ไกล คุณค่าที่แท้จริงของงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ไม่ได้อยู่แค่ที่บูธจัดแสดง แต่ซ่อนอยู่ใน 2 กิจกรรมสำคัญที่เปรียบเสมือน “ห้องเรียนและห้องเจรจาธุรกิจ” ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งปี 

1. เวทีเสวนา – ขุมทรัพย์ข้อมูลเชิงลึก (Live Market Research) 

เวทีเสวนาที่อัดแน่นไปด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยชั้นนำ ไม่ใช่แค่การบรรยายให้ความรู้ แต่คือการทำ “Market Research สด” ที่มีค่ามหาศาล การได้ฟังหัวข้อที่กำลังอยู่ในกระแส เช่น ฮอร์โมน, ยีนส์, สเต็มเซลล์, และเทคโนโลยีการแพทย์แห่งอนาคตโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้นักการตลาดสามารถ: 

  • จับสัญญาณเทรนด์ใหม่ (Trend Spotting) มองเห็นว่าเทคโนโลยีหรือองค์ความรู้ใดกำลังจะกลายเป็นกระแสหลัก เพื่อวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือแคมเปญการตลาดล่วงหน้า 
  • เข้าใจ Insight ผู้บริโภค เรียนรู้ถึง Pain Point และความต้องการเชิงลึกของผู้บริโภคที่วิทยาศาสตร์สามารถตอบโจทย์ได้ ซึ่งเป็นข้อมูลชั้นดีในการสร้างสรรค์ Key Message ที่ทรงพลัง 

2. กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ – ทางลัดสู่การเติบโต (Strategic Partnership) 

กิจกรรม Business Matching ที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับคู่ค้าจากจีน, อินเดีย, และญี่ปุ่น คือเครื่องมือทางกลยุทธ์ที่ทรงประสิทธิภาพ การคาดการณ์เม็ดเงินสะพัดกว่า 120 ล้านบาทในงาน คือบทพิสูจน์ว่านี่คือโอกาสในการ: 

  • ขยายตลาดอย่างรวดเร็ว (Market Expansion) ลดขั้นตอนและต้นทุนในการหาคู่ค้าในต่างประเทศ 
  • สร้างความแข็งแกร่งให้ Supply Chain ค้นหาผู้ผลิตนวัตกรรมหรือวัตถุดิบใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจ 

สำหรับแบรนด์ที่มองเห็นคุณค่า “เบื้องหลังบูธ” เหล่านี้ งาน Expo ก็ได้กลายเป็นเครื่องมือเร่งการเติบโตทางธุรกิจที่คุ้มค่าการลงทุนอย่างยิ่ง 

วิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดจากบูธที่โดดเด่น

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับนักการตลาด คือการได้เห็นกลยุทธ์ที่ถูกนำมาใช้จริง ณ จุดขาย บูธที่เราได้ไปสำรวจมานั้น เผยให้เห็นถึงแนวทางการสื่อสารที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน

  • Zlive Matter (นวัตกรรมการนอน) – กลยุทธ์ “การสร้างหมวดหมู่ใหม่” (Category Creation)
    • Zlive Matter ไม่ได้แข่งขันในตลาดที่นอนทั่วไป แต่สร้างตลาดใหม่ด้วยการชูประเด็น “คุณภาพการนอน” ผ่าน Key Message ที่ทรงพลัง “นอนน้อย แต่ว่านอนดี” และใช้เทคโนโลยี “4D Ozone fiber” เป็นเหตุผลที่น่าเชื่อถือ นี่คือตัวอย่างของการตลาดที่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคโดยการให้ความรู้ใหม่
  • Follizin (ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะ) – กลยุทธ์ “การให้ความรู้ใหม่แก่ตลาด” (Market Re-education)
    • Follizin ประสบความสำเร็จในการทลายกำแพงระหว่างผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมกับสกินแคร์ ด้วยการสื่อสารที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง “หนังศีรษะก็เหมือนผิวหน้า” พร้อมสร้างความแตกต่างด้วยจุดขายด้านความปลอดภัย (Natural Ingredients, No harsh chemicals) ซึ่งตอบโจทย์อินไซต์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจในส่วนผสมอย่างยิ่ง
  • รพ.จุฬารัตน์ 9 และ CH9 Wellness Center – กลยุทธ์ “ผู้นำด้านนวัตกรรม” (Innovation Leadership)
    • รพ.จุฬารัตน์ 9 นำเสนอตัวเองในฐานะผู้นำเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยการนำเสนอนวัตกรรมที่แก้ Pain Point ของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด 1) ความสะดวกสบาย (ตรวจ AGs ไม่ต้องเจาะเลือด), 2) ความรวดเร็วและปลอดภัย (Quick Slim Balloon), และ 3) ผลลัพธ์ที่ล้ำลึก (Plasmapheresis) กลยุทธ์นี้สร้างภาพลักษณ์ของความน่าเชื่อถือและความเป็นผู้เชี่ยวชาญได้อย่างยอดเยี่ยม
  • HN Care (แก้ปัญหาการนอน) – กลยุทธ์ “การเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มด้วยบริการที่เหนือกว่า” (Niche Marketing with Superior Service)
    • HN Care ไม่ได้แข่งกับโรงพยาบาลใหญ่ แต่เลือกเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มคนนอนกรนและนอนไม่หลับ และใช้ “บริการถึงบ้าน” (Home Sleep Test) เป็นจุดขายที่สร้างความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง นี่คือตัวอย่างของการเข้าใจ Pain Point ของลูกค้าและเปลี่ยนมันให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ

สิ่งที่นักการตลาดเรียนรู้จาก Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025

งาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ปิดฉากลงพร้อมกับบทเรียนและข้อมูลเชิงลึกมากมายสำหรับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจ เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลาดสุขภาพในวันนี้ขับเคลื่อนด้วยสิ่งเหล่านี้

  1. วิทยาศาสตร์และความน่าเชื่อถือผู้บริโภคต้องการมากกว่าคำโฆษณา แต่ต้องการข้อมูลและงานวิจัยรองรับ
  2. ความเป็นส่วนบุคคล โซลูชันแบบ One-size-fits-all ไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป
  3. การดูแลแบบองค์รวม สุขภาพกาย, จิตใจ, และความงาม ต้องมาพร้อมกัน
  4. เทคโนโลยีและความสะดวกสบาย นวัตกรรมที่ทำให้การดูแลสุขภาพง่ายขึ้นคือผู้ชนะ

การเข้าใจพลวัตเหล่านี้คือกุญแจสำคัญในการวางกลยุทธ์ที่จะประสบความสำเร็จในปีต่อไป และงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นเวทีที่ดีที่สุดในการเก็บเกี่ยวอินไซต์เหล่านี้

บทความที่เกี่ยวข้อง: Bangna Towers Health & Wellness 2025 อีเวนต์ของคนรักสุขภาพ