Skip to content
Facebook page opens in new windowYouTube page opens in new window
  • EN
ไทย
iPlan Digital Marketing Agency
รับทำการตลาดออนไลน์ ครบวงจร
iPlan Digital Marketing AgencyiPlan Digital Marketing Agency
  • Home
  • Services
    • Menu iconContent Marketing
      • Inbound Content Marketing
    • Menu iconSocial Media
      • Thai Social Media Management
      • Thai Influencer Marketing
    • Menu iconWebsite For SME
      • Managed Website
    • Menu iconDigital Ads
      • Google Ads PPC Management
      • Facebook Ads Management
      • Tik Tok Ads Management
      • Sales Funnel Optimization
    • Menu iconMarketing Automation
      • MarTech Consulting
      • LINE OA Marketing Automation
      • Hubspot
    • Menu iconVideo Production
      • Viral Video
      • Social Video Content Production
      • Commercials
  • Blog
  • Jobs
  • Contact

GET PROPOSAL

  • Home
  • Services
    • Content Marketing
      • Inbound Content Marketing
    • Social Network Marketing
      • Social Media Management
      • Thai Influencer Marketing
    • Website Development
      • Manage Website SME
    • Digital Ads
      • Google Ads PPC Management
      • Facebook Ads Management
      • TIk Tok Ads Management
      • Sales Funnel Optimization
    • Market Automation
      • MarTech Consulting
      • LINE OA Marketing Automation
      • Hubspot
    • Video Production
      • Viral Video
      • Social Video Content Production
      • Commercials
  • Blog
  • Jobs
  • Contact
You are here:
  1. Home
  2. Digital Marketing
  3. สอนวิธีค้นหาคีย์เวิร์ด เขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับหน้าแรกกูเกิล

สอนวิธีค้นหาคีย์เวิร์ด เขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับหน้าแรกกูเกิล

  • Digital Marketing, การตลาดออนไลน์
เขียนบทความ SEO ให้ติดคำค้นหา
เขียนบทความ SEO ให้ติดคำค้นหา

ถ้าต้องการให้บทความ SEO ที่เราเขียนได้รับความนิยมติดอันดับอยู่ในหน้าแรกของ Google ก็ไม่ควรมองข้ามความสำคัญของ “คีย์เวิร์ด” (Keyword) เพราะหากเลือกคีย์เวิร์ดได้ถูกต้องก็จะทำให้บทความของเราถูกค้นเจอในเว็บ Search Engine อย่าง Google หรือ YouTube ได้มากยิ่งขึ้น แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าคีย์เวิร์ดนั้นมีคนค้นหามากที่สุด วันนี้เรามีเทคนิคเกี่ยวกับการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ใช่มาฝากกัน

การค้นหาคีย์เวิร์ดทำ SEO เบื้องต้น

ก่อนอื่นต้องเข้าใจเรื่องการค้นหาคีย์เวิร์ด (Keyword Research) เบื้องต้นเสียก่อนว่ามีความสำคัญต่อการทำ SEO  ทั้งส่วนที่เป็นหัวข้อบทความ, On-page SEO (การทำ SEO ในเว็บไซต์ให้ติดอันดับ), Email Outreach (การส่งลิงก์บทความไปยังกลุ่มเป้าหมายทางอีเมล) รวมถึงการโปรโมตคอนเทนต์ด้วย ทำให้การค้นหาคีย์เวิร์ดเป็นขั้นตอนแรกหรือเป็นเข็มทิศสำหรับการทำแคมเปญ SEO  นั่นเอง

นอกจากนี้ Keyword Research ยังช่วยให้เราเข้าใจกลุ่มที่เป็นเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นด้วย เพราะการค้นหาคีย์เวิร์ดทำให้เราได้รู้ว่าลูกค้ากำลังมองหาอะไร  และได้รู้ว่าลูกค้าใช้คำค้นหาหรือวลีอะไร จึงทำให้ Keyword Research เปรียบได้กับการวิจัยด้านการตลาดในยุคศตวรรษที่ 21 เลยทีเดียว

Keyword Research ช่วยให้เว็บไซต์เติบโตได้อย่างไร 

Keyword Research คือปัจจัยอันดับ 1 ที่ทำให้มีคนเข้าเว็บไซต์จำนวนมาก ซึ่งการใช้คีย์เวิร์ดที่ไม่มีการแข่งขันกันสูงมาก ส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับในหน้าแรกของ Google ได้  และทำให้มีคนเข้ามาอ่านบทความนั้น ๆ ในเว็บไซต์เป็นประจำทุกเดือน

วิธีหาคีย์เวิร์ด

เมื่อทราบถึงความสำคัญของคีย์เวิร์ดแล้ว ก็ได้เวลาในการหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมสำหรับบทความของเรา โดยต้องถามตัวเองให้ได้ก่อนว่าหัวข้อที่คนค้นหากันนั้นมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราตรงไหนบ้าง เพื่อนำไปวางกลยุทธ์ต่อได้ว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนไหน เช่น โซเชียลมีเดีย,  Email marketing, คอนเทนต์การตลาด, บล็อก, โฆษณาแบบ Pay Per Click (PPC) เป็นต้น  เมื่อได้หัวข้อมาแล้วมาลองดูวิธ๊กันว่าทำอย่างไรได้บ้าง

1) ใช้ Wikipedia หาคีย์เวิร์ด

Wikipedia เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี มีแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ และถูกจัดเรียงอย่างเป็นระบบระเบียบ โดยวิธีการใช้ Wikipedia หาคีย์เวิร์ดทำได้ดังนี้ 

  • เข้า Wikipedia หาแถบค้นหา และใส่คำค้นหากว้าง ๆ
  • หน้าเพจจะพาคุณเข้าไปที่หัวข้อนั้น
  • เลื่อนหาหัวข้อ Contents ในเพจ ซึ่งส่วนนี้จะมีลิสต์ของหัวข้อย่อยต่าง ๆ  
  • ลิงก์หัวข้อย่อยต่าง ๆ  สามารถคลิกเพื่อเช็กสารบัญได้ด้วยว่ามีหัวข้ออะไรบ้าง

2) ค้นหาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหา

อีกวิธีหนึ่งที่เข้าท่าไม่แพ้กัน  คือการค้นหาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราค้นหา ซึ่งจะอยู่ด้านล่างสุดของหน้าค้นหาใน Google โดยมาเลื่อนลงมาดูจะพบว่ามีคีย์เวิร์ดที่ใกล้เคียงกับที่เราค้นหาให้เลือกอีก 8 คีย์เวิร์ดเลยทีเดียว 

3) ค้นหาคีย์เวิร์ดจาก Reddit

Reddit เป็นเว็บบอร์ดชื่อดังของฝั่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งแต่ละเนื้อหาจะถูกแบ่งย่อยตามหัวข้อ เรียกว่า “Subreddit” เมื่อเข้าไปใน Reddit แล้วค้นหาหัวข้อด้วยคำค้นหากว้าง ๆ ที่เกี่ยวกับสินค้าที่เราต้องการขาย จากนั้นให้กดเข้าไปดู Subreddit นั้น ๆ แล้วจะเห็นว่ากระทู้ใด้รับความนิยมมีคนเข้าไปคอมเมนต์เยอะ ซึ่งสามารถนำมาเป็นคีย์เวิร์ดได้

นอกจากนี้ คีย์เวิร์ดใน Reddit ที่เรียกว่า “Keyworddit” ถือว่าเป็นเครื่องมือชั้นดีที่ไม่ต้องเสียเงินในการหาค้นหาคีย์เวิร์ดด้วย โดยจะมียอดค้นหาประจำเดือนแสดงให้เห็นว่ามีมากน้อยเพียงใด  

4) ใช้คำค้นหาที่ Google และ YouTube แนะนำ

Google มักจะแนะนำคีย์เวิร์ดยอดนิยมมาให้ ซึ่งคำที่ Google แนะนำมานั้นถือว่าเป็นคีย์เวิร์ดที่ดี เพราะเป็นคำที่คนจำนวนมากใช้ในการค้นหากันนั่นเอง  ซึ่งนอกจากนี้ คำค้นหาที่ Youtube  แนะนำก็สามารถนำมาใช้เป็นคีย์เวิร์ดได้ไม่ต่างกัน

5) ค้นหาหัวข้อยอดนิยม จากการใช้ Forum 

Forum เป็นอีกช่องทางที่จะทำให้เราได้หัวข้อดี ๆ มาต่อยอดในการหาคีย์เวิร์ด เพราะเป็นบอร์ดสนทนาที่มีคนเข้าไปพูดคุยกันได้สด ๆ ตลอดเวลา ซึ่งวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่เป้าหมายของเราอยู่ด้วย คือการพิมพ์ข้อความค้นหาผ่าน Google  โดยให้พิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการ +  Forum หรือเว็บบอร์ดที่ต้องการ

เมื่อค้นเจอ Forum ที่ต้องการแล้ว จะเห็นได้ว่า Forum จะแบ่งเป็น Section ไว้อยู่แล้ว และ Section  เหล่านี้ ถือเป็นแหล่งหาคีย์เวิร์ดชั้นเยี่ยมสำหร้บการทำ SEO และยังสามารถเข้าไปดูเนื้อหา หรือปัญหาที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโพสต์ไว้ในนั้นได้ด้วย

การใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด

Keywords SEO
Keywords SEO

เครื่องมือที่ใช้ทำ Keyword Research จะช่วยให้การค้นหาคีย์เวิร์ดของเราง่ายขึ้นมาก ซึ่งมีเครื่องมือยอดนิยมอะไรบ้าง เรามีมาฝากกัน 

  • Google Keyword Planner เครื่องมือที่เหล่านักการตลาดออนไลน์ให้ความ ไว้วางใจมากที่สุดในการค้นหาข้อมูลคีย์เวิร์ด เพราะต่างจากเจ้าอื่นตรงที่ข้อมูลที่เราได้นั้นมาจาก Google โดยตรง แต่จุดด้อยของเครื่องมือนี้อยู่ตรงที่  Google ออกแบบมาเอื้อประโยชน์กับผู้ที่ลงโฆษณาใน Google Ads ไม่ใช่การทำ SEO โดยตรงนั่นเอง
  • ExplodingTopics.com  เครื่องมือนี้ค่อนข้างคล้ายกับ GoogleTrends แต่ดีกว่า โดยจะลิสต์คำค้นหายอดนิยมจากเว็บต่าง ๆ และวิเคราะห์สถิติรวมไว้ และยังแบ่งหัวข้อเป็นหมวดหมู่ให้ด้วย
  • Keyword Surfer เครื่องมือนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักการตลาดออนไลน์ เพราะว่าแสดงผล  คีย์เวิร์ดจาก Google Search โดยตรง ซึ่งถ้าจะใช้งานก็ต้องลง Chrome Extension ก่อน จากนั้นก็สามารถหาผ่าน Google ได้เลย โดยจะโชว์ข้อมูลให้เห็นว่าได้รับความนิยมมากน้อยเพียงใด พร้อมคำคีย์เวิร์ดที่ใกล้เคียง
  • Ubersuggest เครื่องมือที่เพิ่งอัพเกรดและยกเครื่องขนานใหญ่ไปเมื่อไม่นานนี้ โดยยังคงสร้างชุดคำคีย์เวิร์ดโดยอิงจากการค้นหาทาง Google เป็นหลัก แต่ก็ให้ข้อมูลของแต่ละคีย์เวิร์ดด้วยว่ามีจำนวนการค้นหามากน้องเพียงใด มี Cost Per Click เท่าไร
  • SEMrush หากคิดจะเสียเงินใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด  SEMrush จะช่วยให้เราประหยัดเวลาได้มาก เพราะมีคำการจัดอันดับคำคีย์เวิร์ดไว้ด้วย แทนการสุ่มหาคำคีย์เวิร์ดเหมือนเครื่องมืออื่น ๆ  จึงเหมาะแก่การดึงคีย์เวิร์ดมาใช้งานได้เลย
  • Ahrefs แม้ว่าเครื่องมือนี้นิยมใช้ในการทำ Link Building  แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่า Ahrefs สามารถใช้ค้นหาคีย์เวิร์ดได้ดี และแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำ SEO ด้วย ซึ่งจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าคีย์เวิร์ดนี้ควรนำไปใช้งานหรือไม่ 

ความยากง่ายในการใช้คีย์เวิร์ด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคีย์เวิร์ดยอดนิยมที่เราเลือกมาใช้นั้น มักจะมีการแข่งขันที่สูงมาก ซึ่งก็อาจจะทำให้เว็บไซต์ไม่ติดอันดับในหน้าแรก แต่ถ้าเลือกคีย์เวิร์ที่ไม่มีคู่แข่งใช้เยอะก็มีโอกาสสูงมากที่บทความของเราติดอยู่ในอันดับท็อป 3 ได้เช่นกัน และนี่คือวิธีที่จะช่วยให้เห็นว่าคีย์เวิร์ดที่เลือกใช้งานนั้นมีระดับแข่งขันเป็นอย่างไร 

  • คีย์เวิร์ดยาว ๆ 

หากเป็นเว็บไซต์หน้าใหม่ หรือต้องการให้คีย์เวิร์ดที่ใช้ไม่มีคู่แข่งแบบ 100% ก็ต้องใช้คีย์เวิร์ดยาว ๆ  (Long Tail Keyword) ซึ่งเป็นวลีที่มีมากกว่า 4 คำขึ้นไป และมีข้อความเฉพาะเจาะจง โดยจะตัดปัญหาเรื่องคู่แข่งไปได้ เพราะปริมาณในการค้นหาคำเหล่านี้จะมีเพียง 10-200 ครั้ง/เดือน 

  • เช็กจากหน้าแรกของ Google

การค้นหาคีย์เวิร์ดที่ต้องการ โดยดูอันดับของบทความที่อยู่ในหน้าแรกของ Google หากพบว่ามีแต่เว็บไซต์ดัง ๆ  (เช่น Wikipedia) ก็อาจจะต้องมองหาคำคีย์เวิร์ดอื่น ๆ แทน  แต่ถ้ามีเว็บไซต์ หรือบล็อกเล็ก ๆ ติดอันดับอยู่ในหน้าแรกด้วย ก็มีโอกาสที่เว็บไซต์ของเราจะขึ้นมาติดหน้าแรกของ Google ได้เช่นกัน

  • เช็กระดับความยากง่ายของคีย์เวิร์ดจากเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด 

จากที่ก่อนหน้านี้เราได้แนะนำเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดอะไรบ้าง ก็นำคำคีย์เวิร์ดที่ต้องการไปใส่ในเครื่องมือเหล่านั้น เพื่อเช็กว่ามีคู่แข่งที่ใช้คำค้นหานั้น ๆ มีสัดส่วนมากน้อยเพียงใด และคียเวิร์ดที่ใช้มีระดับความยากง่าย (Keyword Difficulty) อย่างไร ซึ่งเครื่องมือที่มีฟีเจอร์นี้อยู่ด้วย ได้แก่ SEMrush, Ahrefs, KWFinder,  Moz Pro ขณะที่ CanIRank เป็นเครื่องมือที่พุ่งเป้าไปที่ Keyword Difficulty เพียงอย่างเดียว โดยจะประเมินค่าความยากของคีย์เวิร์ดด้วยการจัดอันดับให้เห็นอย่างชัดเจน  

หลักการเลือกคีย์เวิร์ด

หลังจากได้ลิสต์คีย์เวิร์ดมาแล้ว ก็ได้เวลามาเลือกคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุด ซึ่งหลักในการเลือกคีย์เวิร์ด ต้องพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้

  • Search Volume (ปริมาณการค้นหา) ยิ่งมีคนค้นหาคำนี้มากเท่าไร ก็ยิ่งมี Traffic เข้ามามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดก็ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจด้วย 
  • Organic Click–Through–Rate (อัตราการคลิกโดยไม่ผ่านการโฆษณา) ปกติสถิติของ Organic CTR มักจะดิ่งลงมากกว่าพุ่งขึ้น ซึ่งเป็นเพราะฟีเจอร์ Snippets ของ Google แสดงข้อมูลในเว็บไซต์ให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องคลิกเข้าไปดูเนื้อหาอย่างละเอียดในบทความนั่นเอง นอกจากนี้ Google ยังเพิ่มพื้นที่ให้บทความที่จ่ายเงินโฆษณาในหน้าแรกมากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย  จึงต้องใช้เครื่องมือ SERP  (Search Engine Results Page) ในการแสดงอันดับบนเว็บ Search Engine จากนั้นให้ใช้เครื่องมือค้นหาคียเวิร์ดอย่าง Ahrefs และ Moz Pro ในการประเมิน Organic CTR  ว่าเป็นอย่างไร  
  • Difficulty (ความยากง่ายในการไต่อันดับ) กรณีที่เป็นเว็บไซต์น้องใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันต่ำก่อนเป็นอย่างแรก เมื่อเว็บไซต์เริ่มเป็นที่รู้จัก จึงค่อยเริ่มใช้คีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันสูงขึ้น
  • CPC หรือ Cost Per Click (การจ่ายเงินต่อคลิก) เป็นมาตรวัดว่าโฆษณาที่จ่ายเงินไปนั้น มีราคาต่อคลิกประมาณเท่าไร เพื่อประเมินว่าคีย์เวิร์ดที่คนค้นหานั้นเสียเงินโฆษณาด้วยหรือไม่ ซึ่งเครื่องมืออย่าง Ahrefs จะมีสถิติโชว์ให้เห็นว่าคีย์เวิร์ดนั้น ๆ มี CPC เท่าไร ซึ่งถ้าเป็นคีย์เวิร์ดที่ไม่ได้มีคนค้นหามากนัก แต่มี CPC สูง ก็ถือเป็นคีย์เวิร์ดที่ได้ผลเช่นกัน
  • เทรนด์ในการค้นหาคีย์เวิร์ดนั้น ๆ  เราสามารถรู้ได้ว่าคำค้นหาใดกำลังได้รับความนิยมในช่วงนั้น ๆ ด้วยการเช็กผ่าน Google Trends ซึ่งจะโชว์เป็นกราฟให้เห็นว่ามีการค้นหามากน้อยเพียงใดในช่วงนั้น ๆ 

เทคนิค Keyword Research ต่าง ๆ  

  • Barnacle SEO – การทำให้บทความติดอันดับในหน้าแรกของ Google ด้วยการอาศัยพื้นที่จากเว็บไซต์ยอดนิยม อาทิ YouTube, LinkedIn, Medium ในการทำคอนเทนต์ และมี Backlink กลับไปที่เว็บไซต์ของเรา 
  • GSC (Google Research Console) – เครื่องมือที่เปรียบได้กับแหล่งขุมทรัพย์ในการหาไอเดียเรื่องคีย์เวิร์ด ซึ่งหน้า Performance Report จะรายงานคำยอดนิยมที่มีการค้นหาทั้งหมดในเว็บไซต์ Google พร้อมทั้งมีสถิติด้วยว่ามีผู้คนเห็นมากน้อยเพียงใด เพื่อจะได้เลือกคีย์เวิร์ดให้ตอบโจทย์ที่สุด
  • ใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและมีความหมายเดียวกันร่วมด้วย – นอกจากใส่คีย์เวิร์ดหลักแล้ว อย่าลืมใส่คำที่มีความหมายเดียวกัน หรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องลงไปในบทความด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น
  • ใช้ฟีเจอร์ Content Gap ของ Ahrefs – ฟีเจอร์นี้จะแสดงค่าและตารางเทียบคีย์เวิร์ดที่เว็บไซต์ดัง ๆ ติดอันดับมี แต่เว็บไซต์ของเรายังไม่มี
  • หาคีย์เวิร์ดข้างเคียง – แทนที่จะใส่คีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันสูง ให้หาคีย์เวิร์ดข้างเคียงที่ยังคงเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เราขาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นเจอได้มากขึ้น เช่น เว็บไซต์ Ecommerce ที่ต้องขายแป้นบาสเกตบอล ก็อาจจะใส่คีย์เวิร์ดข้างเคียง เช่น  วิธียิงลูกบาสให้ลงห่วง หรือรวมไฮไลต์การสแลมดังก์ เป็นต้น

หากนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดสำหรับการทำบทความ SEO ก็จะช่วยเว็บไซต์ของคุณติดอันดับอยู่ในหน้าแรกของ Google ได้ง่ายขึ้น แม้มีคู่แข่งอยู่มากมายก็ตาม

ที่มา: backlinko

บทความที่เกี่ยวข้อง: เคล็ดลับ ทำ SEO สู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอันดับบน google

  • Digital Marketing, การตลาดออนไลน์
  • I Plan Digital Agency
  • January 25, 2022
PrevPreviousระบบดูดคอมเมนต์ CF เลือกเจ้าไหนดี?
Nextวิธีทำการตลาดบน TikTok ให้ปัง! พร้อมตัวอย่างจาก 8 แบรนด์ดังNext
CATEGORIES
  • Digital Ads(2)
  • Digital Marketing(37)
  • eCommerce(8)
  • Facebook Marketing(34)
  • Google Analytics(4)
  • Inbound Marketing(4)
  • Instagram Marketing(10)
  • Marketing Automation(10)
  • MarTech(6)
  • Mobile(2)
  • Social Media Marketing(27)
  • Uncategorized(1)
  • Youtube Marketing(14)
  • การตลาดออนไลน์(68)
LATEST POST
  • Unified Commerce คืออะไร ? ซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับอีคอมเมิร์ซ ?
    August 15, 2022
  • Social listening สำคัญแค่ไหนกับแบรนด์ของคุณ
    May 27, 2022
  • Line-MyShop-คืออะไร
    Line MyShop คืออะไร เพิ่มยอดขายให้ร้านค้าออนไลน์ได้อย่างไร
    May 6, 2022
  • รู้จักLine-Pay
    รู้จัก LINE Pay ชีวิตที่ง่ายขึ้นทั้งลูกค้า-ร้านค้า เมื่อไม่ต้องใช้เงินสด!
    May 5, 2022
  • ใช้เป็นทันที-Line-MyRestaurant
    ใช้เป็นทันที! แนะนำการใช้งาน Line MyRestaurant อย่างละเอียด
    April 29, 2022
  • LINE MyRestaurant คืออะไร
    LINE MyRestaurant คืออะไร อยากขายดีทำไมร้านอาหารต้องใช้งาน?
    April 28, 2022

Related Posts

Unified Commerce คืออะไร ? ซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับอีคอมเมิร์ซ ?

eCommerce, การตลาดออนไลน์

Social listening สำคัญแค่ไหนกับแบรนด์ของคุณ

Digital Marketing, eCommerce, Social Media Marketing
Line-MyShop-คืออะไร

Line MyShop คืออะไร เพิ่มยอดขายให้ร้านค้าออนไลน์ได้อย่างไร

Digital Marketing, การตลาดออนไลน์
รู้จักLine-Pay

รู้จัก LINE Pay ชีวิตที่ง่ายขึ้นทั้งลูกค้า-ร้านค้า เมื่อไม่ต้องใช้เงินสด!

Digital Marketing, การตลาดออนไลน์
ใช้เป็นทันที-Line-MyRestaurant

ใช้เป็นทันที! แนะนำการใช้งาน Line MyRestaurant อย่างละเอียด

Digital Marketing, การตลาดออนไลน์
LINE MyRestaurant คืออะไร

LINE MyRestaurant คืออะไร อยากขายดีทำไมร้านอาหารต้องใช้งาน?

Digital Marketing, การตลาดออนไลน์
บริษัท ไอ แพลน ดิจิตอล จำกัด

263, 265, 267 ถ.กรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร

เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600

Phone (TH): +66 089-9876-444

Phone (ENG): +66 086-6555-936

Email: [email protected]

Contact Us
Facebook-f Youtube

Digital Agency Services

  • Content Marketing
  • The Preferred Facebook Ads Agency
  • Google Ads PPC Management
  • Tik Tok Ads
  • Instagram Ads Thailand
  • Thai Social Media Page Mangement
  • Thai Influencer Marketing
  • Email Marketing
  • WordPress CMS Website Development

Digital Agency Marketing Services

  • MarTech Consulting
  • Marketing Automation
  • Hubspot
  • LINE OA Marketing Automation
  • Video Content & Commercial Production
  • Sale Funnel Optimization
  • Social Media
  • Social Listening

Articles

Unified Commerce คืออะไร ? ซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับอีคอมเมิร์ซ ?
Social listening สำคัญแค่ไหนกับแบรนด์ของคุณ
Line MyShop คืออะไร เพิ่มยอดขายให้ร้านค้าออนไลน์ได้อย่างไร
รู้จัก LINE Pay ชีวิตที่ง่ายขึ้นทั้งลูกค้า-ร้านค้า เมื่อไม่ต้องใช้เงินสด!

© 2020 iPlan Digital Co., Ltd. – Created with love in Bangkok. All rights reserved | Privacy Policy | Digital Marketing Agency in Bangkok | HTML Sitemap

Home

Services

Knowledge

Contact

    Name *
    Email *


      Name *
      Email *

        Name *
        Email *