https://chat.foxbot.app/webchat/?p=1116283&id=RA4oWc5dayKYU8B9
Video Marketing Form V2

โปรดกรอกฟอร์ม ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 24 ชม.

หลังจาก กดส่งฟอร์มแล้ว รบกวนเช็คที่อีเมล Inbox หรือ Junk Mail ทางระบบเราจะมีส่งข้อมูลเพิ่มเติม และตอบกลับให้ทางเมล ภายใน 5 นาที

ติดต่อเรา

Affiliate Marketing คืออะไร ทำการตลาดด้วย Affiliate ดีไหม

affiliate-marketing-2021

Affiliate Marketing (หรือการตลาดแบบพันธมิตร โดยวิธีการทำการตลาดโดยอาศัย ตัวแทน นายหน้า เพื่อโฆษณาสินค้าหรือบริการ) เป็นกลยุทธ์ยอดนิยมที่สำคัญในการเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ออนไลน์ ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งแบรนด์และนักการตลาด Affiliate เพื่อเป็นการผลักดันสู่กลยุทธ์ใหม่ไปในการตลาดแบบดั้งเดิม

-81% ของแบรนด์ และ 84% ของสำนักพิมพ์ มีการใช้ประโยชน์จากอิทธิพลของ Affiliate Marketing โดยเป็นสถิติจากยอดค่าใช้จ่ายในด้านการตลาดของ Affiliate เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื้องทุกๆปีในสหรัฐอเมริกา แต่ในการทำการตลาด Affiliate Marketing Thailand ในไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากเท่าไร

-ค่าโฆษณาของธุรกิจ Affiliate Marketing ในสหรัฐอเมริกา ตอนนี้อยู่ที่ 10.1% ต่อปี และในปี 2020 คาดการณ์เอาไว้ว่าจะโตถึง 6.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
-ปี 2018 ต้นทุนการตลาดด้านคอนเท้นได้รับการประมาณค่าสูงถึง 62% ของแผนการตลาดแบบดั้งเดิม ( traditional marketing) ในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างโอกาสในการขายสูงกว่าแบบเดิมถึง3เท่า โดยยอดของการสั่งซื้อทั้งหมดกว่า 16% ในออนไลน์มีผลมาจากAffiliate Marketing
-การตลาดAffiliate ในเครือของ Jason Stone หรือที่เรียกว่า Millionaire Mentor รับผิดชอบยอดขายของผู้ค้าปลีกมากถึง 7 ล้านเหรียญ ในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมในปี 2017

สารบัญ

การตลาด Affiliate คืออะไร What Is Affiliate Marketing?

Affiliate Marketing คือ รูปแบบของการตลาดออนไลน์ Affiliate ที่ได้รับค่า Commission สำหรับการทำการตลาดให้กับของบุคคลหรือบริษัทอื่นๆ โดย Affiliate Marketing นั้นสามารถช่วยให้ลูกค้าค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เขาต้องการได้ง่ายและหลากหลาย และยังสามารถโปรโมทผลิตภัณฑ์เหล่านั้น รวมถึงการจะได้รับ Commission จากการขายสินค้าเป็นค่าตอบแทน โดยการขายจะนำลิงก์สินค้าและบริการต่างๆ จากเว็บไซต์ มาแนะนำเพื่อส่งคนไปซื้อสินค้าบนเว็บไซต์นั้นๆ

what-is-affiliate-marketing

 

Affiliate Marketing ทำงานอย่างไร?

เนื่องจาก Affiliate Marketing นั้นทำงานโดยการกระจายความรับผิดชอบของ product marketing และ creation ไปตามฝ่ายต่างๆ จึงสามารถดึงประโยชน์จากความสามารถของบุคคลที่หลากหลายเพื่อกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

โมเดลของ Affiliate Marketing จะประกอบไปด้วยผู้เกี่ยวข้อง 3 ส่วนหลักๆ ประกอบไปด้วย

1. Seller and product creators. (เจ้าของสื่อ เจ้าของช่องทาง เจ้าของเว็บไซต์/โซเชียลมีเดียต่างๆ)
2. The affiliate or advertiser.(ผู้ต้องการโฆษณาหรือขายสินค้า/แบรนด์)
3. Customer (ผู้ซื้อสินค้า)

มาเจาะลึกความสัมพันธ์ของทั้งสามฝ่ายเพื่อให้แน่ใจว่า Affiliate Marketing จะประสบความสำเร็จอย่างไร

1.Seller and product creators

ผู้ขายไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเดียวหรือองค์กรขนาดใหญ่ ทั้ง ผู้ขาย ผู้ค้า ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ หรือผู้ค้าปลีกที่มีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด seller จะได้รับเงินค่าแนะนำสินค้า/บริการ จากการแนะนำสินค้าให้ทาง Advertiser สิ่งที่Seller and product creatorsต้องจ่ายออกไปก็คือการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้วยเวลา, เงินค่าโฆษณา, การทำการตลาดตผลิตภัณฑ์ของตน

2.The affiliate or advertiser

หรือที่รู้จักกันว่าผู้เผยแพร่โฆษณา โดย Affiliate อาจเป็นบุคคลหรือบริษัท ที่ทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยการโปรโมทสินค้าเพื่อโน้มน้าวผู้บริโภคให้ซื้อผลิตภัณฑ์

3.Customer

Customerเป็นตัวขับเคลื่อนการตลาดแบบAffiliateโดยพวกเขาแทบจะไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มสำหรับค่าบริการที่ซื้อผ่านการตลาดแบบAffiliate ผู้บริโภคจะดำเนินขั้นตอนการซื้อให้เสร็จสิ้นและได้รับผลิตภัณฑ์ตามปกติโดยไม่ได้รับผลกระทบจากระบบ Affiliate Marketing

รูปแบบการจ่ายของ Affiliate. How Do Affiliate Marketers Get Paid?

1. Pay per sale

PPS-จ่ายเมื่อมีการขายสินค้าเกิดขึ้น เป็นโครงสร้างมาตรฐาน โดยผู้ขายจะจ่ายเงินให้กับ Affiliate เป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาของผลิตภัณฑ์หลังจากที่ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์

2. Pay per lead

จะมีการจ่ายเงินให้ เมื่อมีคนมาสมัคร หรือ ลงทะเบียนผ่านลิงก์ของ Publisher โดยชักชวนให้ผู้บริโภคเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ขายและดำเนินการตามที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นการกรอกแบบฟอร์มติดต่อ สมัครทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ สมัครรับจดหมายข่าว หรือดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หรือไฟล์

3. Pay per click

มีการจ่ายเงินให้กับผู้ที่โฆษณาต่อคลิก ไม่ว่าการคลิกนั้นๆ จะสามารถขายสินค้าได้ หรือ ขายไม่ได้ก็ตาม เพียงแค่มีการคลิกก็ได้เงินทันที

ทำไมต้องทำ Affiliate. Why Be an Affiliate Marketer? 

1. รายได้แบบ passive

รายได้เชิงรับ คือ รายได้ที่ไม่ได้มาจากการที่เราออกแรงทำงานโดยตรง โดยการทำ Affiliate Market สามารถทำให้เราสร้างรายได้ได้แม้ขณะที่เรานอนหลับ Affiliate Marketing นั้น เป็นการขายสินค้าที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องผลิตสินค้า ไม่ต้องจัดส่งสินค้าแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ แต่ marketing skills ของคุณก็จะทำให้คุณมีรายได้อย่างต่อเนื่อง

2. No customer support (ไม่ต้องการการสนับสนุนจากลูกค้า)

โครงสร้างการตลาดแบบAffiliateทำให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการsupportของกลุ่มลูกค้าหรือความพึงพอใจของลูกค้า โดยงานของ Affiliate Marketerคือการเชื่อมโยงผู้ขายกับผู้บริโภค

3. Work from home

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบการไปทำงานที่ออฟฟิศ Affiliate Marketerเป็นวิธีที่ดี โดยคุณจะสามารถเปิดตัวแคมเปญและมีรายได้นขณะทำงานจากบ้านของคุณเอง

4.Cost Effective (ต้นทุน)

ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการค่าธรรมเนียมในการเริ่มต้นและกระแสเงินสดเพื่อเป็นต้นทุนสำหรับการขายและการผลิต ซึ่ง Affiliate Marketสามารถทำได้ในราคาประหยัด เหมาะสำหรับการเริ่มต้นที่รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก และไม่มีค่าธรรมเนียม

5. Convenient and flexible (สะดวกและยืดหยุ่น)

ถ้าคุณกำลังเป็นฟรีแลนซ์ คุณจึงมีอิสระในการกำหนดเป้าหมาย อิสระในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่สนใจ โดยความสะดวกนี้ หมายความว่าคุณสามารถกระจายกระจายผลงาน และผลิตภัณฑ์ได้ง่าย นอกจากนี้ยังปราศจากข้อบังคับ ข้อจำกัดต่างของบริษัท

6. Performance-Based rewards รางวัลตามผลงาน

สำหรับงานอื่น ๆ คุณสามารถทำงานสัปดาห์ละ 80 ชั่วโมงแต่ยังคงได้รับเงินเดือนเท่าเดิม การตลาด Affiliate Marketer ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของคุณคุณจะได้รับจากสิ่งที่คุณทำลงไป การฝึกฝนทักษะ การตรวจสอบ และ การเขียนแคมเปญ มีส่วนร่วมจะช่วยเพิ่มรายได้ของคุณโดยตรงคุณจะได้รับเงินตามความโดดเด่นของงานที่คุณทำ!

7. Do Not Underestimate the power of SEO อย่าดูถูกพลังของSEO

วันที่ Search Engine Optimization เกี่ยวกับการโกง Google หมดไป วันนี้สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือการทำให้เว็บไซต์ของคุณดีขึ้น ผู้คนมักมองหาข้อมูลทางออนไลน์ นั่นคือเหตุผลที่คุณควรเรียนรู้พื้นฐานของ SEO ใครบ้างที่ไม่อยากติดอันดับ 1 สำหรับคำต่างๆเช่น “ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด” หรือ “รีวิวผลิตภัณฑ์” ใน Google

Common Types of Affiliate Marketing Channels (ช่องทางในการทำ Affiliate Marketing)

1. Influencers

บุคคลที่มีอำนาจในการสร้างอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้า คนกลุ่มนี้ได้รับประโยชน์อย่างมากในการตลาดแบบ Affiliate เพราะ influencer มีผู้ที่ติดตามอยู่แล้วจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่เหล่า influencer ได้ทำการโปรโมทหรือขายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยเหล่า influencer จะได้รับการแบ่งผลประโยชน์หรือกำไรจากทางแบรนด์

2. Bloggers

บล็อกเกอร์จะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการมาเขียนบทวิจารณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในการส่งเสริมการขายแบรนด์ที่น่าสนใจซึ่งจะดึงดูดกลุ่มผู้ชม และทำให้ลิ้งค์ไปยังการเข้าชมเว็ปไซต์ของแบรนนนั้นๆ โดยอิทธิพลของบล็อกเกอร์ช่วยเผยแพร่ข่าวสารและคุณค่าของผลิตภัณฑ์และแบรนด์นั้น ซึ่งสามารถช่วยให้แบรนนำบทวิจารณ์นั้นมาพัฒนาและต่อยอดได้

3. Paid search focused microsites (ไมโครไซต์ที่เน้นการค้นหาแบบเสียค่าใช้จ่าย)

ไมโครไซต์ คือเว็บไซต์ขนาดเล็กที่สร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์เฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมแคมเปญ โปรโมทสินค้า หรืองานอีเวนต์ ไมโครไซต์คือเครื่องมือที่จะมาช่วยให้คุณสร้างพื้นที่และบริบทใหม่แก่โปรดักต์นั้นๆ ก่อให้เกิดภาพจำเฉพาะและง่ายต่อการพูดคุยกับคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแน่นอนว่าภาพลักษณ์หรือแบรนด์นั้นๆ จะเด่นชัดขึ้นภายใต้บริบทของตัวเอง

4. Email lists

ถึงแม้ว่าอีเมลจะมีต้นกำเหนิดที่เก่าแก่สุด แต่ในด้านการตลาดอีเมลยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของ Affiliate Marketing ไม่ว่าเราจะสมัครเว็บอะไรก็ยังจำเป็นต้องใช้อีเมลในการสมัคร โดยอีเมลยังสามารถเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ถึงแม้บางคนไม่ต้องมีสินค้า ก็สามารถขายของให้คนอื่นได้ โดยรับค่าคอมมิสชั่นตอบแทน

5. Large media websites

ออกแบบมาเพื่อรองรับการเข้าชมจำนวนมาก โดยไซต์เหล่านี้มุ่งเน้นที่การสร้างผู้ชมนับล้าน เว็บไซต์เหล่านี้ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ชมจำนวนมากผ่านการใช้แบนเนอร์ วิธีนี้ช่วยเพิ่มการแสดงผลที่เหนือกว่าและปรับปรุง Conversion rates ทำให้ทั้งผู้ขายและบริษัท มีรายได้สูงสุด

เคล็ดลับที่จะช่วยให้ Affiliate Marketer ประสบความสำเร็จ

1. Develop a rapport การพัฒนาความสัมพันธ์

เมื่อเริ่มต้นอาชีพ Affiliate Marketer คุณจะต้องศึกษากลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจในแต่ละด้านเฉพาะเจาะจงมาก วิธีนี้ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งแคมเปญ Affiliate ของคุณให้เข้ากับแบรนด์นั้นๆได้ การสร้างตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งแทนที่จะโปรโมตผลิตภัณฑ์ทีละจำนวนมากๆ คุณจะทำให้ผู้คนสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ของคุณมากขึ้น

2. Make it personal ทำให้เป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่คุณเชื่อถือเป็นการส่วนตัวได้ โดยคุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแคมเปญของคุณมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ให้เห็นคุณค่าอย่างแท้จริง ที่จะสามารถทำให้ผู้บริโภคพึงพอใจ และประทับใจ ในขณะเดียวกันก็สร้างความน่าเชื่อถือให้กับpersonal brandของคุณเช่นกัน

3. Start reviewing products and services เริ่มตรวจสอบผลิตภัณฑ์และบริการ

โฟกัสกับผลิตภัณฑ์และบริการที่อยู่ในช่องของคุณ จากนั้นใช้ประโยชน์จากrapportที่คุณสร้างขึ้นกับผู้ชมและจุดยืนของคุณในฐานะผู้เชี่ยวชาญบอกผู้เข้าชมถึงตัวโปรดักว่าทำไมพวกเขาจะได้รับประโยชน์จากการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณกำลังโปรโมต เกือบทุกอย่างที่ขายทางออนไลน์สามารถตรวจสอบได้หากมีโปรแกรม Affiliate คุณสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ได้ในซอฟต์แวร์ดิจิทัลหรือแม้แต่บริการที่จองทางออนไลน์ เช่น การแชร์ การจองรีสอร์ท การเดินทาง ต่างๆ ที่สำคัญที่สุดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเนื้อหาที่คุณสร้างมีรายละเอียดชัดเจนเพื่อปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงในภายหลัง

4. Use several sources ใช้แหล่งข้อมูลหลายแหล่ง

แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่แคมเปญอีเมลเพียงอย่างเดียวให้ใช้เวลาในการโฟกัสรายได้กับบล็อก การเข้าถึงผู้ชมของคุณบนโซเชียลมีเดีย ทดสอบกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อดูว่าผู้ชมของคุณตอบสนองต่อสิ่งใดมากที่สุด

5. Choose campaigns with care เลือกแคมเปญด้วยความระมัดระวัง

ไม่ว่าทักษะการตลาดของคุณจะดีเพียงใด แต่ถ้าผลิตภัณฑ์คุณไม่ดีก็สามารถทำเงินได้น้อยเช่นกัน ใช้เวลาศึกษาความต้องการสินค้าก่อนที่จะโปรโมต อย่าลืมหาข้อมูลของผู้ขายด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะร่วมมือกัน โดยเวลาของคุณนั้นมีค่า คุณต้องแน่ใจว่าคุณจะใช้จ่ายไปกับผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลกำไรให้คุณ

มีการแข่งขันที่มากมาย และกดดันในขอบเขตการตลาดแบบ Affiliate คุณจะต้องแน่ใจว่าคุณอยู่เหนือเทรนด์ใหม่ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถแข่งขันกับแบรนด์อื่นๆได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ติดตามกลยุทธ์ใหม่ๆ เหล่านี้อยู่เสมอเพื่อรับประกันว่าอัตรา Conversion และรายได้ของคุณจะได้รับสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

คงจะเห็นแล้วว่าการตลาดแบบ Affiliate หรือ Affiliate Marketing ปัจจุบันได้รับความนิยมมาก เพราะจะว่าไปแล้วก็ได้ประโยชน์ในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ในแง่ของแบรนด์ ก็จะเป็นการขยายช่องทางการขายให้กว้างออกไป ทั้งยังเป็นการเพิ่มกลุุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ ๆ ที่สำคัญคือ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น จากการใช้อินฟลูเอนเซอร์ บล็อกเกอร์ หรือแม้กระทั่งผู้ใช้งานจริง มาเป็นนายหน้าช่วยขาย ดังที่เราเห็นจากทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น TikTok Affiliate (https://getstarted.tiktok.com/affiliates) หรือ Marketplace ชื่อดัง อย่าง Shopee ที่มี Shopee Affiliate (https://shopee.co.th/m/affiliate-program) หรือ Lazada กับ Lazada Affiliate (https://lazada-affiliate-program) ในส่วนของนายหน้าผู้ช่วยขาย ต้องบอกว่าตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากสมัครเป็นนายหน้ากันทั้งนั้น เพราะเป็นการหารายได้เข้ากระเป๋าแบบที่ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องสต็อกของ แค่ขยันโพสต์แนะนำหรือทำคลิปขายสินค้าที่ตัวเองใช้ก็ได้แล้ว จะถือว่าการตลาดแบบ Affilate คือการตลาดที่เหมาะกับคนยุคดิจิทัลก็ว่าได้

บทความที่เกี่ยวข้อง: สมัครนายหน้า TikTok Affiliate ทำอย่างไร ดีจริงไหม?

I Plan Digital Agency
I Plan Digital Agency
Articles: 269
4 เทคนิคเพิ่มยอดขายด้วย TikTok Ads (TikTok Shop Part 11) 4 แนวทางขายของบน TikTok Shop ให้โดนใจสายแม่บ้าน สรุป 5 สถิติ TikTok Shop ประจำปี 2566 เช็กลิสต์ 5 สินค้าขายดีบน TikTok ปี 2023 5 เรื่องต้องรู้! ก่อนขายของบน TikTok